กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,203 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,210 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.61 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650 บาท และกลับมาปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,227 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,327 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 7.6 % แบบ10 บาท ลดลง 13.7 % GFV14 ปิด 18,790 บาท และ GFZ14 ปิด 18,830 บาท GF10V14 ปิดที่ 18,790 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,850 บาท
สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 5.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,212.4 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.49 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 88.85 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 767.47 ตัน (เท่าเดิม)
ข่าวที่สำคัญ
-ทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากการเข้าซื้อของนักลงทุนในฐานะ Safe Heaven หลังจากไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
-นอกจากนี้ การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ รวมไปถึงการปรับตัวลงอย่างหนักของตลาดหุ้นดาวโจนส์ ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ทองคำกลับมายืนเหนือบริเวณ 1,200 เหรียญ
-นักวิเคราะห์จากคิทโก้ กล่าวว่า ในเชิงเทคนิคภาพรวมราคาทองคำในระยะกลางและระยะยาวยังคงเป็นขาลง ถึงแม้ว่าในสัปดาห์นี้ทองคำจะสามารถดีดกลับมายืนเหนือ 1,200 เหรียญได้อีกครั้งหนึ่ง แต่หากทองคำจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งต้องสามารถยืนเหนือเส้นแนวต้านสำคัญทางเทคนิคบริเวณ 1,232.7 เหรียญให้ได้
-สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า นักลงทุนในตลาดทองคำยังคงรอคอยการกลับมาของจีน ซึ่งจะกลับมาเปิดทำการตามปกติในวันนี้ ซึ่งอาจเกิดแรงซื้อที่แข็งแกร่งของจีนและผลักดันให้ทองคำกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้
-ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่ระดับ 1.2658 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.2619 ดอลลาร์/ยูโร และเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนที่ระดับ 108.15 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 109.01 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ปรับตัวลดลง 0.2%สู่ระดับ 85.79 เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก
-ไอเอ็มเอฟ ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ลง 0.1% สู่ระดับ 3.3% ขณะที่ปี 2015 ปรับลดลงอีก 0.2% อยู่ที่ระดับ 3.8%เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจยูโรโซน และญี่ปุ่นที่อ่อนแอ รวมถึงตลาดเกิดใหม่หลายๆแห่ง เช่น บราซิล ที่เริ่มเกิดภาวะชะลอตัว หลังจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกอ่อนแอและมีการเติบโตที่ไม่สม่ำเสมอ
-ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถูกปรับลดคาดการณ์ลงสู่ระดับ 0.9% ในปีนี้ ซึ่งลดลง 0.7% ขณะที่ปี 2015 ลดลง 0.8% จากระดับ 1.0% ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศลดลง จากการขึ้นภาษีการขายในเดือนเมษายน
-นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงที่จะเจอภาวะขาลงมากยิ่งขึ้น หลังจากที่หลายๆประเทศเกิดความตึงเครียดทางการเมือง รวมถึงการปรับฐานของตลาดการเงินในระยะสั้น
-ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี ประจำเดือนสิงหาคม ปรับตัวลงสู่ระดับ -4.0% จากระดับ 1.6% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 5 ปี และสอดคล้องกับตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานประจำเดือนสิงหาคมที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเยอรมนีมียอดสั่งซื้อหดตัวลง 5.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 บ่งชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 3
-ขณะที่ฝรั่งเศสยังคงมียอดขาดดุลในระดับสูงที่ 9.41 หมื่นล้านยูโร (1.1853 แสนล้านดอลลาร์ฯ) เนื่องจากต้นทุนค่าใช้จ่ายจากโครงการลงทุนครั้งใหม่สำหรับอนาคตและรายได้ภาษีลดลง หลังมีการเพิ่มมาตรการเครดิตภาษี
-อย่างไรก็ดี สถาบันจัดอันดับการเงินของเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของยูโรโซนมีแนวโน้มจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง แต่จะอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองในหลายพื้นที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
-เมื่อวานนี้ ตำแหน่งงานว่างสหรัฐฯประจำเดือนกันยายนปรับตัวสูงขึ้น 230,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 4.84 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 4.61 ล้านตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันมีงานทำเพิ่มขึ้น และจะส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มของเศรษฐกิจ
-นักลงทุนจับตาสรุปผลรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนกันยายน (16-17 ก.ย.) โดยจะประกาศในคืนนี้เวลาตี 1 ของไทย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการสิ้นสุด QE หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะภาคแรงงาน
-การประชุม G20 ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันพรุ่งนี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับแนวทางการบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การกระตุ้นการลงทุน และการรับมือกับความเสี่ยงจากปัญหาทางการเมือง รวมถึงการปรับลด QE ของสหรัฐฯ และภาวะเงินฝืดของยูโรโซน ซึ่งหลังจบการประชุมอาจไม่มีการแถลงการณ์ร่วม หากแนวโน้มเศรษฐกิจไม่เปลี่ยนแปลงไปมากจากการประชุมครั้งก่อน
-ผู้นำของญี่ปุ่นกับรัสเซีย มีมติเห็นชอบที่จะจัดการประชุมระหว่างประเทศในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศลดน้อยลง เนื่องจากที่ญี่ปุ่นได้มีการคว่ำบาตรรัสเซียจากเหตุขัดแย้งในยูเครน
-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -1.60% (272.52 จุด) เพราะได้รับแรงกดดันจากการที่ไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นยุโรป โดยตลาดหุ้นยุโรปปิด -1.5% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังมีรายงานว่าภาคผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีหดตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี
-เช้านี้ ตลาดหุ้นโตเกียวเปิด -1.33% ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก รวมถึงค่าเงินเยนปรับแข็งค่าสู่กรอบล่างบริเวณ 108 เยน/ดอลลาร์
-นักบริหารเงิน คาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.60-32.70 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีก หลังจากเมื่อวานนี้มี Flow ไหลเข้ามาช่วงท้ายตลาดจากต่างชาติที่กลับมาซื้อ ซึ่งหากค่าเงินบาทสามารถผ่าน 32.70 บาท/ดอลลาร์ได้ ก็มีโอกาสทดสอบบริเวณ 32.90 บาท/ดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
- JOLTS Job Openings ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.61M ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 4.84 M
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
-FOMC Meeting Minutes
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงดีดตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที 2 โดยยืนอยู่เหนือระดับ 1,200 เหรียญ ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดย JOLTS Job Openings ดีขึ้นสู่ระดับ 4.84 ล้านตำแหน่ง ขณะที่ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 767.47 ตัน ตลาดยังคงเฝ้ารอดูการกลับเข้ามาของจีนหลังจากปิดทำการในช่วงวันหยุดยาว โดยรอดูว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างไร สำหรับวันนี้จะมีการแถลงการณ์สรุปผลรายงานการประชุมของเฟด ในช่วงเวลาประมาณ 01.00น. ตามเวลาไทย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,184 เหรียญ เรียกว่าเป็นการทดสอบจุดต่ำสุดที่เป็น Double Bottom เป็นครั้งที่ 3 และมี Technical Rebound จากสัญญาณ Fibonacci โดย Rebound ที่ระดับ 63% ซึ่งจะทำให้ราคาขึ้นไปสู่ระดับ 1,216 เหรียญ ซึ่งบริเวณ 1,222 เหรียญจะเป็นเส้นค่าเฉลี่ยแนวต้านแรกที่สำคัญ ดังนั้นวันนี้จึงคาดว่าบริเวณ 1,216-1,222 เหรียญ จะเป็นจุดแนวต้านสำคัญของทองคำ โดยการดีดตัวขึ้นของราคาทองคำยังถือเป็นเรื่องของ Technical Rebound ในระยะสั้น วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนในกรอบ 1,200-1,220 เหรียญ อย่างไรก็ดี เริ่มเกิดสัญญาณ Divergence ที่ RSI และ MACD ขึ้นในระดับ 1 ชั่วโมง และคาดว่าการขึ้นดังกล่าวจะจบภายใน 1-2 วันจึงยังแนะนำให้ทำ Short Position บริเวณ 1,216 เหรียญขึ้นไป
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงแนะนำให้นักลงทุนบริหารเงินลงทุนให้เหมาะสมไม่ถือสถานะ Long Position หรือ Short Position มากเกินไป ยังคงรักษาระดับการทำกำไรระยะสั้นและรักษาระดับแนวโน้มในทิศทางขาลง ทำสถานะ Short เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น เก็งกำไรระยะสั้นตามรอบการแกว่ง เข้าออกเร็ว
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรระยะสั้นตามสภาพการแกว่งของตลาดไม่ถือสถานะ Long Position มากจนเกินไป
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทำกำไรเป็นช่วงๆ โดยเปิดสถานะ Short Position บริเวณ 1,216 เหรียญขึ้นไป
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
เก็งกำไรในแนวโน้มขาลงในระยะยาว
Gold Futures V14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,680 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,880 บาท
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,920 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 1) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 16 ตุลาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 และวันที่ 30 ตุลาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777
(เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา)
2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาระดับ Exclusive ในหัวข้อ “เทรด TFEX อย่างโปรด้วย MT4” ในวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2557 เวลา 10.00-12.00น. ณ MTS Gold สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น12
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777
3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และ Gold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.