กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
ณ ดินแดนแห่งขั้วโลกเหนืออันหนาวเหน็บและไกลโพ้น ที่อัดแน่นด้วยเรื่องราวของเหล่านักผจญภัยนิรนาม ผู้เปี่ยมล้นด้วยจิตวิญญาณแห่งความท้าทาย และเหล่าสุนัขลากเลื่อนอันเป็นตำนานแห่งความองอาจ ในการสำรวจสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายในดินแดนใหม่ ๆ TUDOR Heritage Ranger นำความสำเร็จจากศตวรรษก่อนกลับมาสู่ห้วงเวลาปัจจุบันอีกครั้ง นี่คือการหวนกลับไปมองโลกในอดีตที่เต็มไปด้วยการต่อสู้อันกล้าหาญเฉกเช่นวีรบุรุษผ่านมุมมองในยุคใหม่
ด้วยแรงบันดาลใจจากรุ่นดั้งเดิมที่มีชื่อเดียวกันว่า Ranger ซึ่งแบรนด์ได้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 นาฬิการุ่นใหม่นี้ ผสานวิธีการสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งพัฒนาโดย TUDOR เพื่อนำเสนอมรดกตกทอดอันยาวนานของแบรนด์ในปี ค.ศ. 2010 ด้วยการเปิดตัวรุ่น Heritage Chrono แต่นี่ไม่ได้เป็นเพียงการผลิตนาฬิการูปแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง หากคือการสร้างนิยามใหม่ที่แตกต่าง จนกลายมาเป็นการผสมผสานกันระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตผ่านรูปลักษณ์อันนำสมัย ความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ที่ชวนจดจำของรุ่นดั้งเดิมนั้นได้รับการรักษาไว้ พร้อมด้วยสัมผัสของความทันสมัยเพื่อให้ดีไซน์สุดคลาสสิกของนาฬิการุ่นนี้สอดคล้องกับความนิยมในปัจจุบัน จากการทุ่มเทให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดและการเชื่อมโยงเข้ากับเรื่องราวอันยิ่งใหญ่นี้เองที่ทำให้ทาง Style Workshop ของ TUDOR สร้างสรรค์ Heritage Ranger ให้กลายเป็นพลังแห่งความแข็งแกร่งที่ไร้กาลเวลา
เช่นเดียวกันกับรุ่นดั้งเดิม ขาตัวเรือนนาฬิกาของ TUDOR Heritage Ranger ถูกเจาะสำหรับใส่สลักเชื่อมกับสายนาฬิกา หน้าปัดสีดำด้านประทับตรากุหลาบ TUDOR เป็นทรงโดม เช่นเดียวกันกับกระจกคริสตัล ซึ่งเป็นคุณลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกา TUDOR ในช่วงทศวรรษที่ 1950 และ 1960 เพื่อภาพลักษณ์แนวเรโทรที่มีสไตล์โดดเด่น สัญลักษณ์บอกชั่วโมงที่ 3 6 9 และ 12 นาฬิกา บนหน้าปัดไม่ใช่การติดตัวเลขแบบนูนเหมือนกับนาฬิการุ่นอื่น ๆ ในคอลเล็คชั่น Heritage แต่เป็นการลงสีด้วยสารเรืองแสงเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์แบบย้อนยุคที่ดูอบอุ่นและชวนหลงใหล เข็มนาฬิกาทรงลูกแพร์อันเป็นเอกลักษณ์นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก TUDOR Ranger ดั้งเดิม
ด้วยขนาดที่ดูร่วมสมัยกว่ารุ่นต้นฉบับ ตัวเรือนของ TUDOR Heritage Ranger มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 41 มม. พร้อมผิวสัมผัสแบบซาตินเช่นเดียวกับทุกๆ ส่วนที่เป็นเหล็กกล้า ผิวสัมผัสนี้ถูกนำมาใช้เพื่อแสดงถึงประโยชน์ในการใช้งาน ความสามารถที่เหนือกว่าทางเทคนิค และความแข็งแกร่งของวัตถุในระดับที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์มาตรฐานที่ผู้คุมสุนัขลากเลื่อนจะต้องตระเตรียมให้พร้อมก่อนออกไปเผชิญกับสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายของขั้วโลกเหนือ เม็ดมะยมขนาดใหญ่ ผิวสัมผัสซาตินของ TUDOR Heritage Ranger สลักโลโก้กุหลาบ TUDOR แบบดั้งเดิม และขันสลักลงในท่อเม็ดมะยมผิวสัมผัสซาติน ที่ยื่นออกมาช่วยตอกย้ำความซับซ้อนทางเทคนิคของนาฬิกาขึ้นไปอีกระดับ กลไกลานอัตโนมัติคาลิเบอร์ 2824 นั้นเชื่อถือได้และแม่นยำไม่ต่างจากตัวนาฬิกา TUDOR Heritage Ranger
สายนาฬิกาอันประณีตทั้งสี่ที่ออกแบบโดย Style Workshop ของ TUDOR เพื่อ TUDOR Heritage Ranger โดยเฉพาะ แต่ละแบบล้วนบ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะตัวอันโดดเด่น ช่วยให้นาฬิการุ่นใหม่นี้ผสานเข้ากับรูปแบบในการใช้งานได้อย่างลงตัว สายแบบแรกเป็นสาย bund strap แบบมีแผ่นรองหลัง พร้อมหมุดตอกผิวสัมผัสซาติน ตัดเย็บจากหนังสีน้ำตาลอ่อนให้กลิ่นอายของหนังสัตว์ธรรมชาติ และอุปกรณ์ที่เหล่านักผจญภัยในขั้วโลกเหนือใช้งาน หัวพับสายเป็นผิวสัมผัสซาตินทั้งชิ้น ซึ่งเป็นการยกระดับทางเทคนิคของสายนาฬิกา สายนาฬิกาแบบที่สองที่สามารถปรับขนาดได้และสวมใส่สบายเป็นพิเศษ พร้อมลายพรางทหารที่ถักทอในโทนสีเขียว เพื่อสื่อถึงดินแดนอันปกคลุมไปด้วยผืนป่ากว้างใหญ่ที่ต้องใช้สุนัขลากเลื่อนในการเดินทาง สายแบบที่สามทำจากหนังสีน้ำตาลเข้มซึ่งชวนให้นึกถึงบังเหียนลากเลื่อนพร้อมหัวพับสาย TUDOR ผิวสัมผัสซาติน แบบที่สี่ซึ่งเป็นแบบสุดท้ายมาพร้อมกับหัวพับสายแบบเดียวกัน โดยสายนาฬิกาที่ทำจากเหล็กกล้าให้สัมผัสซาตินทั้งเส้น รูปลักษณ์ของสายที่แตกต่างนี้มาจากการเชื่อมต่อโดยกรรมวิธี tube type ซึ่งได้เคยทำเมื่อปี 1950 อันเป็นช่วงเวลาที่มีการเดินทางออกสำรวจดินแดนอันห่างไกลทั่วโลกมากมาย เช่นเดียวกันกับนาฬิการุ่นอื่น ๆ ในคอลเล็คชั่น Heritage นาฬิกา TUDOR Heritage Ranger แต่ละเรือนมาพร้อมสายผ้าทอ และสายนาฬิกาอันที่สองซึ่งสามารถเลือกได้จากตัวเลือกทั้งสามแบบ