กรุงเทพ--1 ก.ย.--บ.เดอะ โคเจเนอเรชั่น
โคโค่ประกาศผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2539/2540 มีกำไร 722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% เผยการขยายการลงทุน โครงการสาธารณูปโภคเพื่ออุตสาหกรรมระยะที่ 3 ส่วนแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นายชาญชัย ชีวเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ โคเจเนอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (COCO) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำปีงบประมาณ 2539/2540 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2540 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,778.03 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปีก่อนมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,627.47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 132% และมีกำไรสุทธิ 722.27 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปีก่อนบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 416.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73% กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 2.71 บาท ในขณะที่ปีก่อนมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.69 บาท หรือเพิ่มขึ้น 60%
นายชาญชัยกล่าวว่า การเติบโตของผลการดำเนินงานเป็นผลจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าระยะที่ 2 ของบริษัทฯแล้วเสร็จสมบูรณ์ เมื่อเดือนตุลาคม 2539 สามารถเดินเครื่องกระแสไฟฟ้าได้เต็มกำลัง 300 เมกกะวัตต์ และไอน้ำได้ 320 ตันต่อชั่วโมง จำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมที่ได้ก่อสร้างโรงงานแล้วเสร็จเช่นกัน และรับไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำสำหรับกระบวนการผลิตของโรงงานจากบริษัทฯได้ รวมทั้งจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้เต็ม 180 เมกกะวัตต์ภายใต้สัญญา SPP ด้วย
ในส่วนของการขยายโครงการสาธารณูปโภคเพื่ออุตสาหกรรมระยะที่ 3 บนพื้นที่ 180 ไร่ ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ขนาดกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า 470 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 360 ตันต่อชั่วโมง (หรือเทียบเท่าพลังงานที่ผลิตได้ประมาณ 530 เมกะวัตต์) นั้น เพื่อรองรับกับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมต้องการพลังงานที่มีความมั่นคงสูงมาก ในขณะที่ลูกค้าหลักคือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีสัญญาการรับซื้อไฟเป็นระยะยาว
"คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2542 โดยในส่วนแรก ได้ก่อสร้างหน่วยผลิตกระแสไฟฟ้ากังหันก๊าซ มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 70 เมกกะวัตต์ และไอน้ำ 160 ตันต่อชั่วโมงพร้อมระบบจำหน่าย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบเดินเครื่อง (Commissioning Test) ทั้งนี้กำลังการผลิตจากโครงการระยะที่ 3 นี้ ส่วนหนึ่งจะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ส่วนที่เหลือจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการในนิคมมาบตาพุดและนิคมใกล้เคียง" นายชาญชัยกล่าว
อนึ่ง บริษัท เดอะ โคเจเนอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในบริษัท ไทยโคเจเนอเรชั่น จำกัด (TCC) 99.99% และบริษัทเอ็มพีพี โคเจเนอเรชั่น จำกัด (MTP) 99.99% โดย TCC และ MTP เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการลงทุนในโครงการระยะที่ 3--จบ--