มาสเตอร์โพลล์ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ข่าวทุกข์ ข่าวสุข และทิศทางการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศการเมือง สังคม และเศรษฐกิจยุค คสช.

กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--มาสเตอร์โพลล์ มาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ข่าวทุกข์ ข่าวสุข และทิศทางการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศการเมือง สังคม และเศรษฐกิจยุค คสช.และรัฐบาลชุดปัจจุบัน ในทรรศนะของแกนนำชุมชนทั่วประเทศ รองศาสตราจารย์ ดร.เชษฐ์ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) เรื่อง ข่าวทุกข์ ข่าวสุข และทิศทางการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศการเมือง สังคม และเศรษฐกิจยุค คสช.และรัฐบาลชุดปัจจุบันในทรรศนะของแกนนำชุมชนทั่วประเทศ กรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 625 ชุมชน ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 9 - 11 ตุลาคม 2557 ข่าวทุกข์ใจ กังวลใจมากที่สุดใน 5 อันดับแรกของแกนนำชุมชน พบว่า อันดับแรก ได้แก่ ข่าวฆาตรกรรม ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เช่น ข่าวแรงงานต่างชาติฆ่าข่มขืนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ข่าวเด็กถูกข่มขืน ข่าวฆาตรกรรมอื่นๆ ร้อยละ 27.8 อันดับสอง ได้แก่ ข่าวลดพื้นที่ทำนา ผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ร้อยละ 15.4 อันดับสามได้แก่ ข่าวโจมตีรัฐบาล ก่อม็อบ ความแตกแยกของคนในชาติ ร้อยละ 13.9 อันดับสี่ ได้แก่ ข่าวปัญหาปากท้อง หนี้สิน ร้อยละ 9.5 และอันดับห้า ได้แก่ ข่าวปัญหายาเสพติด ร้อยละ 6.9 ตามลำดับ ข่าวสุขใจของแกนนำชุมชนมากที่สุดใน 5 อันดับแรก ได้แก่ ข่าวเกษตรกรได้รับการดูแลช่วยเหลือ ร้อยละ 21.8 อันดับสองได้แก่ ข่าวบรรยากาศการเมืองดีขึ้น ร้อยละ 15.3 อันดับสาม ได้แก่ ข่าวความรักความสามัคคีของคนในชาติ ร้อยละ 13.7 อันดับสี่ได้แก่ ข่าวในหลวงทรงพระอาการดีขึ้น ร้อยละ 8.9 และอันดับห้า ได้แก่ ข่าวการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ได้ร้อยละ 6.3 ตามลำดับ เมื่อถามความคิดเห็นของแกนนำชุมชนเกี่ยวกับความสนใจติดตามข่าวของคนไทยในขณะนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.4 คิดว่าคนไทยส่วนใหญ่สนใจติดตามข่าวดีมากกว่า ข่าวร้าย ในขณะที่เพียงร้อยละ 11.6 ระบุคนไทยสนใจติดตามข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามแกนนำชุมชนถึง ทิศทางการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศ การเมือง สังคม และเศรษฐกิจที่ดีขึ้น หลังจากมี คสช. และรัฐบาลชุดปัจจุบัน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.1 ระบุ ด้านการเมืองดีขึ้น รองลงมาคือ ร้อยละ 61.5 ระบุด้านสังคมดีขึ้น ร้อยละ 60.5 ระบุด้านความเป็นธรรม กระบวนการยุติธรรม ดีขึ้น ร้อยละ 59.7 ระบุการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นดีขึ้น ร้อยละ 58.7 ระบุ ความรักความสามัคคีของคนในชาติดีขึ้น ร้อยละ 58.5 ระบุ ด้านวัฒนธรรมประเพณีดีขึ้น ร้อยละ 57.0 ระบุความสัมพันธ์ของคนในชุมชนดีขึ้น ร้อยละ 52.6 ระบุด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สัดส่วนน้อยที่สุดคือ ร้อยละ 32.9 เท่านั้นที่ระบุว่า รายได้ของคนในครอบครัวดีขึ้น และร้อยละ 38.4 ระบุหน้าที่การงานของคนในครอบครัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.9 ของแกนนำชุมชนที่ถูกศึกษาครั้งนี้ระบุมีกำลังใจที่จะทำงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในสถานการณ์การเมืองของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา