กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 16 ตุลาคม 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,237.80-1,245.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,100 บาทต่อบาททองคำโดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV14 อยู่ที่ 19,220 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 260 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,960 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.51 น. ของวันที่ 16/10/14)
แนวโน้มวันที่ 17 ตุลาคม 2557
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสียงและตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์กลับมาเคลื่อนไหวในระดับติดลบเมื่อนับตั้งแต่ต้นปีนี้และอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยปิดตลาดในแดนลบเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ตลาดหุ้นเผชิญกับแรงเทขายอย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้นในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นอีกครั้งและทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศกังวลว่าเศรษฐกิจอาจจะดิ่งลงมากเกินไปในเวลาที่รวดเร็ว ด้วยเหตุผลนี้ อาจส่งผลให้เงินจำนวนมากไหลเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำเพิ่มเติมเหมือนในช่วงที่เกิดวิกฤติการธนาคารเมื่อปี 2008 ประกอบกับ WHO ระบุว่า มีผู้ทำงานด้านการแพทย์จำนวนหนึ่งที่ล้มป่วยด้วยเชื้อไวรัสอีโบลาใน สเปนและสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยสถานการณ์ในประเทศกินี, ไลบีเรีย และ เซียร์ราเลโอน กำลังย่ำแย่ลง ขณะที่พบพยาบาลารายที่สองในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ติดเชื้อไวรัสอีโบลา ยังเป็นอีกประเด็นที่ เป็นภัยคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ดอลลาร์ร่วงลง และราคาตราสารหนี้สหรัฐพุ่งขึ้นหลังจากยอดค้าปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิตร่วงลงในเดือนกันยายน ขณะที่กิจกรรมการผลิตในรัฐนิวยอร์คชะลอลงสู่อัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำขยับขึ้นมักมีแรงขายทองคำออกมาเพื่อลดความผันผวนของสกุลเงินยูโรที่อาจฉุดให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงตามสกุลเงินยูโรที่มีแนวโน้มและทิศทางอ่อนค่าลง เบื้องต้นอยากแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนและกระแสข่าวร่วมถึงตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งยูโรโซนในช่วงนี้อย่างมาก เพราะอาจกดดันราคาทองคำปรับตัวลงและอาจทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำอาจมีความผันผวนได้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำยังอยู่ในช่วงสร้างฐานของราคา โดยการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้างจนกว่าจะทะลุกรอบ 1,225 -1,257 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดังนั้นการซื้อควรรอการอ่อนตัวลงมายังบริเวณแนวรับ 1,233-1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรในโซน 1,247- 1,257 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากหลุดบริเวณ 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ควรตัดขาดทุน เพื่อรอประเมินสถานการณ์อีกครั้งก่อนเข้าลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,233 (18,960บาท) 1,225 (18,830บาท) 1,217 (18,710บาท)
แนวต้าน 1,247 (19,180บาท) 1,257 (19,330บาท) 1,265 (19,450บาท)
GOLD FUTURES (GFV14)
แนวรับ 1,212 (19,080บาท) 1,204 (18,950บาท) 1,193 (18,830บาท)
แนวต้าน 1,235 (19,290บาท) 1,242 (19,450บาท) 1,253 (19,570บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148