ฟิทช์คงอันดับเครดิต AIS ที่ ‘BBB+’/ ‘AA+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 27, 2014 14:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) และอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (Long-Term Local-Currency Issuer Default Rating) ของ AIS ที่ ‘BBB+’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ในขณะเดียวกันฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ AIS ที่ ‘AA+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ ‘F1+(tha)’ ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต การเติบโตของรายได้ที่ช้าลง: การเติบโตของรายได้จากการให้บริการของ AIS น่าจะลดลงมาอยู่ในระดับที่ไม่เติบโตจนถึงเติบโตต่ำกว่า 5% ในปี 2557 และ 2558 การเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้จากการให้บริการด้านข้อมูล จะถูกลดทอนด้วยรายได้จากการให้บริการด้านเสียงที่ปรับตัวลดลง อัตราส่วนกำไรต่อรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น: กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า ต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ของ AIS น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับ 46%-50% ในปี 2557 และ 2558 (จาก 45.1% ในปี 2556) ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้ภาครัฐ (Regulatory Cost) ที่ลดลงจากการย้ายผู้ใช้บริการและการใช้งานไปยังเครือข่าย 3G ฟิทช์คากว่าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้ภาครัฐต่อรายได้จากการให้บริการของ AIS จะลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 18% ในปี 2557 จาก 23.5% ในปี 2556 อย่างไรก็ตามการลดลงของค่าใช้จ่ายดังกล่าวอาจถูกลดทอนบางส่วนด้วยค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก AIS น่าจะยังคงรักษากิจกรรมทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G และการใช้งานข้อมูลทางมือถือ ความคล่องตัวในการรองรับการลงทุนที่สูง: กระแสเงินสดสุทธิ (Free Cash Flow) ของ AIS น่าจะติดลบในปี 2557 และ 2558 จากเงินลงทุนที่สูงอย่างต่อเนื่องสำหรับการขยายเครือข่าย 3G และส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Financial Leverage) ของ AIS ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่า สถานะทางธุรกิจและทางการเงินของ AIS จะยังคงสอดคล้องกับอันดับเครดิตปัจจุบัน อัตราส่วนหนี้สินต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอันดับเครดิตปัจจุบันของ AIS น่าจะช่วยลดผลกระทบจากการลงทุนที่สูง โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO-Adjusted Net Leverage) อยู่ที่ระดับ 0.45 เท่า ณ สิ้นไตรมาสที่สองของปี 2557 (ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะอยู่ที่ 0.8 เท่า ณ สิ้นปี 2557) ผู้นำตลาด: AIS สามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟิทช์คาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดตามรายได้จากการให้บริการให้อยู่ในระดับสูงกว่า 50% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้สถานะทางธุรกิจของ AIS ยังได้รับการสนับสนุนจากชื่อเสียงทางการค้าของบริษัทที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี และเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ครอบคลุมมากที่สุด ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต ปัจจัยลบ - การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วน FFO- Adjusted Net Leverage สูงกว่า 1.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง - การเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย หรือกฎระเบียบของกิจการโทรคมนาคมที่ส่งผลในแง่ลบต่อบริษัท ปัจจัยบวก - บริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิ (Free Cash Flow) เป็นบวก - กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (EBITDAR) ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ภายใต้ระบบใบอนุญาต - อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า ต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ของบริษัทสูงกว่า 45% อย่างต่อเนื่อง (ในปี 2555 อยู่ที่ 44.3%)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ