ช้างฯ เซอร์กิต พร้อมจัด “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง” รอบ 16 ปี “บิ๊กเน” คาดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนคน

ข่าวกีฬา Friday October 31, 2014 15:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--Professional Media Business ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามระดับโลกแห่งแรกในเมืองไทย ร่วมกับพันธมิตร เตรียมจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ครั้งแรกในรอบ 16 ปีของเมืองไทย ชิงชัยระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย.นี้ ยิงสดไทยรัฐทีวี ขณะ “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ บอสใหญ่ตั้งเป้าผู้ชมทะลุ 150,000 คน เผยเป็นการปูทางสู่การจัดเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ในเดือนมีนาคมปีหน้า ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (Chang International Circuit) จ.บุรีรัมย์ จับมือพันธมิตรหลักอย่าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ร่วมแถลงข่าวการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชียรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2014 (Asia Road Racing Championship : ARRC) สนาม 5 ระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายนนี้โดยนับเป็นการกลับมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้อีกครั้งในรอบ 16 ปี ของประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นเจ้าภาพมาแล้วในช่วงปี 1996-1998 เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ นับเป็นเกมความเร็วแบบ 2 ล้อที่มียอดนักบิดและทีมแข่งชั้นนำของทวีปเอเชียเข้าร่วมการแข่งขันอย่างคับคั่ง โดยมีการแข่งขันทั้งสิ้น 3 รุ่น ได้แก่ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. (Super Sport 600 CC), อันเดอร์โบน 130 ซี.ซี. (Underbone 130 CC) และ เอเชีย ดรีม คัพ (Asia Dream Cup) นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม BRIC BIKE SHOWและพบกับ BIKE QUEEN นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเปยว่า “นับเป็นวันที่ประเทศไทย กลับมามีศักยภาพในการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ ที่ได้รับการรับรองจากสมาพันย์จักรยานยนต์นานาชาติ (FIM) ได้อีกครั้ง โดย เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ถือเป็นการแข่งขันรายการใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งจะกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้งในรอบ 16ปี ของไทย ถ้าเปรียบกับฟุตบอลก็เทียบเท่า เอเอฟซี แชมเปี้ยน ลีก” “ส่วนแฟนความเร็วชาวไทย นี่คือโอกาสพิเศษที่จะได้ชมเกมระดับนานาชาติในบ้านเรา โดยที่ไม่ต้องบินไปยังต่างประเทศ ไทยนับเป็น 1 ใน 5 ประเทศ ขณะที่ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นับเป็น 1 ใน 6 สนาม ที่จะได้สิทธิ์จัดการแข่งขันรายการนี้ โดยจะมีทีมแข่งไทย 2 ทีมลงแข่งขันด้วย เชื่อว่าทั้ง ยามาฮ่า และ ฮอนด้า จะทำผลงานได้ดีในประเทศไทย เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของชาวไทย คาดว่าในวันที่ 7-9 พฤศจิกายนนี้ จะมีผู้ชมไม่ต่ำกว่า 150,000 คน ถือเป็นการประกาศความพร้อมของไทยอย่างเต็มตัวในการรองรับเกมจักรยานยนต์นานาชาติ และในเดือนมีนาคมปีหน้า เราจะจัดการแข่งขัน เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ (WSBK) ได้อย่างแน่นอน” นายเนวิน เผย สำหรับ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2014 จะแข่งขันทั้งสิ้น 6 สนาม ก็บคะแนนสนามละ 2 เรซ ไล่ตั้งแต่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (มาเลเซีย), เซนตูล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (อินโดนีเซีย), ออโตโปลิส (ญี่ปุ่น), ซูซูกะ (ญี่ปุ่น) ซึ่งสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประเทสไทย ถูกบรรจุเป็นสนามที่ 5 ของปีในวันที่ 7-9 พฤศจิกายนนี้ ก่อนปิดฤดูกาลที่สนามโลแซล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ในวันที่ 11-13 ธันวาคมนี้ ฤดูกาลนี้มีนักบิดไทยหลายคนแข่งขันในศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แบบเต็มฤดูกาล โดยในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. มีทั้งสิ้น 2 ทีม ได้แก่ รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ และ สุหทัย แช่มทรัพย์ จาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง รวมถึง พีระวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ และ จักกฤษณ์ แสวงสวาท จาก เอ.พี. ฮอนด้า ไทยแลนด์ ส่วนรุ่นอันเดอร์โบน 130 ซี.ซี. มีนักบิดหนึ่งเดียวของไทยอย่าง วรพงศ์ มาลาหวล หจาก ไทย ฮอนด้า เรซซิ่ง นอกจากนี้ยังมี 2 นักบิดไทยลงแข่งขันในรุ่น ฮอนด้า เอเชีย ดรีม คัพ ได้แก่ เกียรติศักดิ์ ช่วยวิเศษ และ ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ด้วย ขณะเดียวกัน จะมีนักบิดไทยอีก 3 คน ที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ดเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ได้แก่ อนุชา นาคเจริญศรี และ นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร นักบิดดาวรุ่ง จากสังกัด เอ.พี. ฮอนด้า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ส่วนอีกรายคือ อนุภาพ ซามูล นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2014 สนาม 5 ระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายนนี้ โดยจะถ่ายทอดสดการแข่งขันทางสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ทางช่องไทยรัฐทีวี HD32 ในวันที่ 9 พฤศจิกายน เวลา 13:00 – 16:30 น. ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งระดับมาตรฐาน FIA Grade1 / FIM Grade A มีความยาวของสนาม 4.554 กม. จำนวนโค้ง 12 โค้ง สามารถใช้ความเร็วสูงสุด 315 กม./ชม. และจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 422 วัน เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2014 ที่ผ่านมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ