“ฮุนได ฟอร์คลิฟท์” เร่งทำตลาดในไทย ตั้งเป้าปี 58 โต 30%

ข่าวยานยนต์ Monday November 3, 2014 15:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--ที แอล เอส กรุ๊ป เซาธ์อีสท์ เอเชีย บริษัท ฮุนได เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ จำกัด ประเทศเกาหลีใต้ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถฟอร์คลิฟท์ “ฮุนได” เชื่อมั่นอุตสาหกรรมในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่อง ผสานความร่วมมือตัวแทนจำหน่ายไทย บริษัท ที แอล เอส เซาธ์อีสท์ เอเชีย จำกัด รุกทำตลาดรถฟอร์คลิฟท์ในประเทศ วินเซนต์ อัน ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาตลาดยานยนต์เพื่ออุตสาหกรรม และรักษาการณ์แทนผู้อำนวยการกลุ่มยานยนต์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท ฮุนได เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ จำกัด เผยประเทศไทยถือเป็นตลาดรถฟอร์คลิฟท์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความต้องการในการใช้รถใหม่สูงถึง 7,000 คันต่อปี รองลงมาคือ อินโดนีเซีย และเวียดนามที่มียอดขายขยายตัวถึง 20% เนื่องจากมีนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนมากขึ้น ทำให้มีการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 57 นี้ไทยประสบกับปัญหาด้านการเมืองและภัยธรรมชาติ ทำให้ยอดขายเติบโตเพียง 12% แต่อย่างไรก็ตามยอดขายก็ยังคงสูงกว่าเวียดนามถึง 3 เท่า “เรายังเชื่อมั่นในตลาดไทยและเชื่อในบริษัท ที แอล เอส กรุ๊ป เซาธ์อีสท์ เอเชีย จำกัด (TLS Group) ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจรถฟอร์คลิฟท์มากว่า 10 ปีและทำยอดขายเป็นที่น่าพอใจ” วินเซนต์ อัน กล่าว กมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์ รองประธานส่วนงานธุรกิจยานยนต์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท ที แอล เอส กรุ๊ป เซาธ์อีสท์ เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่าตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายน 2557 บริษัทสามารถทำยอดขายได้กว่า 130 คัน คิดเป็นมูลค่า 130 ล้านบาท มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น การท่าเรือแห่งประเทศไทย ไทยซัมมิท และปูนอินทรี คาดว่าทั้งปี 2557 จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 150 คันตามเป้าหมายทางการตลาด เนื่องจากเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในปี 2558 ที่ไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น คาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายรถฟอร์คลิฟท์ให้เพิ่มขึ้นอีก 30% เป็น 180-200 คัน คิดเป็นมูลค่า 180-200 ล้านบาท ในปี 2558 “ฮุนได” มีแผนที่จะทำตลาดในประเทศไทยให้เข้มข้นขึ้น โดยเน้นเจาะ 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อาหาร ยานยนต์ และโลจิสติกส์ รวมถึงมีแผนเปิดตัว “ฮุนได ฟอร์คลิฟท์ ซีรีย์ 9” เพิ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่โดยใช้ระบบ CPU ประมวลผลการทำงาน เพื่อให้ผู้ใช้งานทำงานได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น โดยไตรมาสแรกของปี บริษัทเตรียมความพร้อมเปิดศูนย์บริการเพิ่มอีก 2 สาขาคือ พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร จากเดิมที่มีอยู่ 4 สาขาคือ ระยอง ชลบุรี สิงห์บุรี และกรุงเทพมหานคร รวมถึงการสร้างศูนย์ฝึกอบรม ที่ศูนย์บริการ จ. ระยอง บนพื้นที่ 22 ไร่ งบลงทุน 70 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2558

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ