กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,144.20-1,169.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 17,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 200 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 17,930 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 270 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,200 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.58 น. ของวันที่ 05/11/14)
แนวโน้มวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557
ความหวังที่ภาวะชะงักงันทางการเมืองในสหรัฐจะยุติลงได้หนุนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า เมื่อพรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาสหรัฐและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งกลางสมัย
และพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสทั้งสองสภาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ปี 2006 เป็นต้นมา ดอลลาร์แข็งค่าและขึ้นทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินตราสกุลอื่นๆ ทั้งนี้ ทองคำถูกลดความน่าสนใจในฐานะหลักประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบหลายปีเมื่อบริษัทซาอุดิ อารามโคปรับลดราคาน้ำมันที่ขายให้แก่ลูกค้าในสหรัฐเพื่อเป็นการประกาศสงครามราคาเพื่อชิงแบ่งตลาดกับผู้ผลิตน้ำมันชาวสหรัฐประเด็นดังกล่าวบ่งชี้ถึงแนวโน้มว่าภาวะน้ำมันล้นตลาดโลกอาจจะทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากภาวะดังกล่าวกดดันราคาน้ำมันให้ดิ่งลงมาแล้ว 30 % นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาทองร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 4 ปี ทั้งนี้ นักลงทุนยังกังวลกับเม็ดเงินลงที่ไหลออกมาจากกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำขนาดใหญ่ก็ได้ลดการถือครองทองคำลงสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 6 ปี ได้สะท้อนมุมมองที่เป็นลบในตลาดทองคำมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามควรติดตามประเด็นการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนว่าจะไปหาสินทรัพย์ภัยแหล่งใด เพราะในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนต่างขายทองคำออกมาโดยมีสาเหตุมาจากการแกว่งตัวอย่างมากของราคาทองคำ ทั้งนี้นักลงทุนเลือกที่จะถือเงินสดเพื่อรอดูสถานการณ์ ทำให้เชื่อได้ว่าหากไม่มีปัจจัยหนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่งการขยับขึ้นของราคาทองคำคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำอาจมีโอกาสดีดตัวขึ้นระยะสั้นในลักษณะ Technical Rebound หลังจากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินโซนแนวต้านที่ 1,155-1,162 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับ 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์น่าจะเห็นการปรับตัวลงต่อโดนประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,126 หรือ 1,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่าทองคำมีความผันผวนอย่างมาก และนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหากหลุดบริเวณดังกล่าวจำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,155 หรือ 1,162 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,140 (17,680บาท) 1,126 (17,470บาท) 1,120 (17,370บาท)
แนวต้าน 1,155 (17,920บาท) 1,162 (18,030บาท) 1,173 (18,200บาท)
GOLD FUTURES (GFZ14)
แนวรับ 1,140 (17,830บาท) 1,126 (17,620บาท) 1,120 (17,520บาท)
แนวต้าน 1,155 (18,070บาท) 1,162 (18,180บาท) 1,173 (18,350บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148