กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิด “กิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” เพื่อให้สังคมตระหนัก มีความเข้าใจในปัญหา ปฏิเสธการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ ณ บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนาสังคม สร้างความเป็นธรรมและความเสมอภาคในสังคม ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพและความมั่นคงในชีวิตรวมทั้งสถาบันครอบครัวและชุมชน ทั้งนี้ การรณรงค์เพื่อยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี เป็นกิจกรรมที่สนับสนุนนโยบายหลักของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อให้เครือข่ายยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ครอบครัว และความรุนแรงทุกประเภทที่เกิดขึ้นในสังคม โดยให้ประชาชนทุกภาคส่วนเกิดความตระหนักและมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาความรุนแรง ซึ่งมีศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน เป็นกลไกในการทำงานภายใต้ระบบศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC เริ่มตั้งแต่การจัดเก็บข้อมูล การเฝ้าระวัง ป้องกัน แก้ไขปัญหา รวมทั้งการติดตามและประเมินผล เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสังคมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงในสังคมที่มีต่อเด็ก และสตรี โดยได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.) สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว(สค.)
ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC ร่วมกับ ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้จัดกิจกรรม “รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” ในครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อให้สังคมตระหนัก มีความเข้าใจในปัญหา มีความร่วมมือในการปฏิเสธใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ ไม่เพิกเฉย ไม่สืบทอดหรือสนับสนุนการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ซึ่งจะเป็นแนวทาง ในการป้องกันปัญหาการใช้ความรุนแรงในสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป
“กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ขอประกาศเจตนารมณ์ที่จะยึดมั่นในการปฏิบัติภารกิจการรณรงค์ยุติความรุนแรง ภายใต้หลักธรรมภิบาลอย่างแน่วแน่ เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุขและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดต่อไป” พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวตอนท้าย