จาก ป ปลา ถึง ไทยช่วยไทย ร่วมใจประหยัดพลังงาน

ข่าวทั่วไป Monday March 23, 1998 16:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--23 มี.ค.--สพช.
ภาพของหนุ่มใหญ่วัยกลางคนหรืออาเม้ง ถูกอาม้าสั่งให้ท่องอาขยาน "ปปลานั้นหายาก" ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์เมื่อปี 2540 ได้จุดประกายถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญด้านการอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง ถึงแม้จะเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทย เรื่องการอนุรักษ์พลังงาน ที่แปลความให้เป็นเรื่องง่ายๆ เช่น การประหยัดการใช้น้ำมัน ไฟฟ้า น้ำ ก็สามารถทำให้อยู่ในความสนใจของประชาชนได้ ปัจจุบันผู้คนจำนวนมากรู้จัก"โครงการรวมพลังหาร 2"
"โครงการรวมพลังหาร 2 นี้เกิดจากแนวคิดที่ต้องการเสริมสร้างให้คนไทยทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันใช้พลังงานน้ำมัน ไฟฟ้า และทรัพยากร อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ทั้งนี้เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ผลิตขึ้นมาจากทรัพยากรธรรมชาติที่ปัจจุบันมีปริมาณลดน้อยลงทุกวัน และมีการจัดหามาในราคาที่สูงขึ้น"ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.)เปิดเผยถึงความตั้งใจของ สพช. เมื่อครั้งการแถลงข่าวเปิดโครงการรวมพลังหาร 2 เมื่อปีที่แล้ว
ปีนี้ โครงการรวมพลังหาร 2 มีอายุย่างเข้าปีที่ 2 ด้วยความมุ่งมั่นเดิมโดยใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ทำกิจกรรมรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ในแนวทางที่ชัดเจนขึ้น โดยตั้งเป้าหมายให้คนไทยใช้พลังงานลดลงและลดการสูญเสียให้ได้ ในปีที่ 2 นี้โครงการจะเน้นไปที่การทำให้ประชาชนเห็นว่าการใช้พลังงานเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศอย่างไร มีวิธีการง่ายๆอย่างไรในการลดการใช้พลังงาน
นอกจากกิจกรรมด้านประชาสัมพันธ์โดยมีกำหนดออกภาพยนตร์เพื่อให้ประชาชนเห็นวิธีการในการใช้น้ำมัน ไฟฟ้า อย่างถูกต้องแล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไป อาทิเช่น การแสดงโขนหาร 2 ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด การสัมมนาอาคารหาร 2 เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่บรรดาอาคารสำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ร่วมกันลดการใช้พลังงานอย่างถูกวิธี การจัดตั้งชมรมขบวนการหาร 2 โดยให้เยาวชนมีบทบาทในการอนุรักษ์พลังงาน เป็นต้น
เป็นที่ทราบกันดีว่าปีนี้ประเทศเราประสบกับปัญหาเศรษฐกิจรุนแรง ค่าเงินบาทตกต่ำ ทำให้ประเทศต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าจากต่างประเทศมากขึ้น ปีหนึ่งๆเราต้องซื้อน้ำมันจากต่างประเทศกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการเดินทาง ขนส่ง เดินเครื่องจักรในโรงงาน เพื่อแสงสว่างและทำความเย็นในอาคารบ้านอยู่อาศัย ดังนั้นการใช้พลังงานจึงเป็นการใช้สินค้านอก ที่ต้องใช้เงินตราต่างประเทศแลกซื้อมา
โครงการ "ไทยช่วยไทย ร่วมใจประหยัดพลังงาน" จึงเกิดขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือเพื่อให้คนไทยลดการใช้พลังงานอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งที่จะกอบกู้สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) จึงได้ผนวกโครงการรวมพลังหาร 2 เข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ไทยช่วยไทย ร่วมใจประหยัดพลังงาน" ซึ่งจะเป็นการรณรงค์ระดับประเทศ ที่มุ่งให้เกิดการตื่นตัวต่อการแก้ไขวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ โดยการเสนอแนะวิธีการประหยัดน้ำมัน และไฟฟ้าเพื่อให้มีการลดการใช้พลังงานอย่างรวดเร็ว และสามารถเห็นผลได้ชัดเจน
โครงการนี้มีเป้าหมายลดความต้องการใช้น้ำมันให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 5 จากปี2540 คิดเป็นเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท และลดความต้องการใช้ไฟฟ้าร้อยละ 5 คิดเป็นเงินประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ลดความจำเป็นในการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าจำนวน 1,000 เมกกะวัตต์ คิดเป็นเงินประมาณ 50,000 ล้านบาท
กิจกรรมในกรอบของโครงการ "ไทยช่วยไทย ร่วมใจประหยัดพลังงาน" มีหลากหลายวิธีเช่น การรณรงค์ลดการใช้ไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศในหน่วยราชการและอาคารสำนักงาน การรณรงค์ลดการสูญเสียน้ำมันจากการเดินทาง การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมประหยัดพลังงานช่วงปิดเทอม โดยจัดให้มีสัปดาห์การรณรงค์ นิทรรศการ และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์อย่างกว้างขวาง ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่วัน"ไทยช่วยไทย ร่วมใจประหยัดพลังงาน" ในวันที่ 7 พฤษภาคม นี้ ซึ่งทางรัฐบาลจะได้จัดให้มีรายการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมการประหยัดพลังงานซึ่งจะมีกิจกรรมและมาตรการที่จะปูพื้นฐานให้ประชาชนนำไปปฏิบัติต่อไป
วิธีช่วยชาติ ช่วยกอบกู้เศรษฐกิจมีหลายวิธี วิธีที่เห็นผลได้รวดเร็วทางหนึ่งคือการประหยัดพลังงาน หากคนไทยสามัคคี ร่วมมือ ร่วมใจ ใช้พลังงานให้น้อยลง คิดก่อนใช้ ก็จะเป็นการเสียสละเพื่อชาติทางหนึ่งเช่นกัน
ล้อมกรอบ
มาตรการช่วยชาติประหยัดน้ำมันการใช้น้ำมันของไทยใน 1 ปี ดีเซล 18,000 ล้านลิตร เบนซิน 7,000 ล้านลิตร น้ำมันเตา 9,000 ล้านลิตร(แหล่งที่มาของข้อมูล : ปรับปรุงจากวารสารนโยบายพลังงาน ฉ.ที่ 38ตุลาคม-ธันวาคม 2540 หน้า 89)
ใช้รถให้น้อยลง
- เป้าหมายเดียวกันใช้รถร่วมกัน
- ใช้บริการขนส่งมวลชน
- สื่อสารทางโทรสาร โทรศัพท์ แทนการเดินทางวางแผนการเดินทาง
- คิดก่อนออกเดินทาง วางแผนเส้นทาง ประหยัดเวลา ประหยัดน้ำมัน
- หลีกเลี่ยงการเดินทางในเวลาเร่งด่วนบำรุงรักษารถยนต์
- รักษาไส้กรองให้สะอาด
- ตรวจดูลมยางให้พอเหมาะใช้รถให้ถูกวิธี
- ใช้เกียร์และความเร็วรอบที่สอดคล้องกัน
- หลีกเลี่ยงและไม่บรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็น
- ควรขับเคลื่อนด้วยความเร็วคงที่ และไม่เกิน 80 กม./ชม.
มาตรการช่วยชาติประหยัดไฟฟ้าการใช้ไฟฟ้าของไทยใน 1 ปี กำลังการผลิตติดตั้ง 16,269 เมกะวัตต์ ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดวันที่ 8 พฤษภาคม 14,506 เมกะวัตต์ 1 ปีต้องใช้เชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า น้ำมันเตา 5,040 ล้านลิตร น้ำมันดีเซล 1,080 ล้านลิตร ก๊าซธรรมชาติ 7,200 ล้านลูกบาศก์เมตร ลิกไนต์ 16.56 ล้านตัน
บ้าน
- ปรับปรุงบ้านให้อากาศถ่ายเท จะช่วยลดการใช้แอร์
- ลดความร้อนจากภายนอก โดย พยายามปลูกต้นไม้ช่วยบังแดด ติดม่านกันแดด ฉนวนกันความร้อน ทาสีบ้าน ด้วยสีอ่อนๆหลอดไฟ
- เปลี่ยนจากหลอดไส้เป็นหลอดตะเกียบ จากหลอดอ้วนเป็นหลอดผอม
- ปิดไฟบางดวงที่ไม่จำเป็น
- ปิดไฟทันทีเมื่อเลิกใช้งานแอร์
- ใช้อุณหภูมิที่ 25 องศาเซลเซียส เย็นกว่านี้เปลืองไฟอีก องศาละ 10%
- ลดการรั่วไหลของความเย็น โดยตรวจสอบรูรั่วของห้องและปิดประตูหน้าต่างให้สนิทเครื่องใช้ไฟฟ้า
- เลือกเครื่องใช้ที่ได้มาตรฐาน และมาตรฐานประหยัดไฟ
- ตรวจซ่อมและทำความสะอาดเสมอ
- คอมพิวเตอร์ ไม่เปิดทิ้งไว้โดยไม่ทำงานอื่นๆ
- งดใส่สูท เพราะการใส่สูทในห้องแอร์ ทำให้ต้องปรับอุณหภูมิให้ต่ำซึ่งสิ้นเปลืองไฟฟ้า
- ใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะกว่าจะได้น้ำมาต้องใช้ไฟฟ้ามหาศาล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โครงการ "ไทยช่วยไทย ร่วมใจประหยัดพลังงาน" สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) 394/14 ถ.สามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทรศัพท์ 628 - 7745 - 53 , 280 - 0951 -7 ต่อ 210 โทรสาร 282 - 4682--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ