สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 2, 2014 10:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,151 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,196เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.81 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 17,900 บาท กับ 18,000บาท และกลับมาปิดที่ 18,250 บาท กับ 18,350 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,689 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 11,773 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 7.8% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 9.2% GFZ14 ปิด 18,660 บาท และ GFG14 ปิด 18,720 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,660 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,730 บาท สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 42.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,218.1 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 2.85 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 69 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 717.63 ตัน (เท่าเดิม ) ข่าวที่สำคัญ -ทองคำปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 4% และไปแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ประมาณ 1,221.75 เหรียญ/ออนซ์ เพราะได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการเข้าซื้อของกลุ่มนักลงทุนในฐานะ Save Heaven หลังจากญี่ปุ่นถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ รวมถึงการที่ธนาคารกลางอินเดียผ่อนคลายกฎระเบียบการนำเข้าทองคำ เนื่องจากเข้าใกล้ช่วงเทศกาลแต่งงาน ซึ่งจะเป็นช่วงที่อินเดียมีปริมาณความต้องการทองคำค่อนข้างสูง -อย่างไรก็ดี ในช่วงแรก ราคาทองคำปรับตัวลดลงเพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์และผลประชามติของสวิสเซอร์แลนด์ที่คัดค้านข้อเสนอในการสำรองทองคำเพิ่มเติม ก่อนจะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นระหว่างวันจากแรงซื้อทางเทคนิค และการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ -นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากการทำ Short Covering อย่างหนัก รวมถึงคำสั่ง Buy Stop ที่เข้ามากระตุ้นความต้องการทองคำในตลาดฟิวเจอร์ส รวมถึงการอ่อนตัวของดัชนีดอลลาร์ และการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบเกือบ 5% -อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นของทองคำน่าจะเป็นการรับข่าวในช่วงสั้นๆเท่านั้น หากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านสำคัญที่เคยเป็นสูงสุดเดิมในเดือนตุลาคมบริเวณ 1,256.2 เหรียญได้อย่างแข็งแกร่งจึงจะทำให้ภาพหลักกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ดีคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,163.9 – 1,220 เหรียญ นักวิเคราะห์จาก HSBC ระบุว่า เราจะเห็นถึงภาวะ Oversold ในกราฟทางเทคนิคเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ปริมาณความต้องการทองคำในตลาดเพิ่มสูงขึ้นจากอินเดีย และค่าพรีเมียมในจีนที่ยังคงทรงตัวที่ระดับ 1-2 เหรียญ จึงช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้าซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่ง -นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank กล่าวว่า ทองคำมีการถือครองทองคำเพิ่มในสินทรัพย์ป้องกัน-ความเสี่ยงในหลายๆตลาด หลังจากภาคกิจกรรมาการผลิตของจีนและยุโรปส่งสัญญาณชะลอตัวลง ขณะที่ตลาดหุ้นเริ่มอ่อนแรง ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และการกลับมาแข็งค่าของเงินเยน ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนความต้องการทองคำอีกครั้ง -ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2477 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2443 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงจากระดับ 88.28 สู่ระดับ 87.98 ในเช้าวันนี้ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตด้านอุปทาน (ISM) ประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 58.7 จากระดับ 59.0 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลงเล็กน้อย -นาย สแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่า อาจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการปรับเพิ่มค่าจ้างแรงงานในสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างเต็มที่หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินในปี 2007-2009 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจะส่งผลเชิงลบต่ออัตราเงินเฟ้อและอาจทำให้จีดีพีที่กำลังฟื้นตัวต้องปรับตัวลงอีกครั้ง -นาย วิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจในอนาคตของสหรัฐฯมีแนวโน้มจะก้าวต่อไปข้างหน้า หลังจากการจ้างงานในสหรัฐฯฟื้นตัวสูงขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ เช่นเดียวกับความมีเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งฟเดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ตามเป้าหมายในปี 2015 แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ 2% ก็ตาม -ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 118.28 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 118.75 เยน/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้เริ่มกลับมาอ่อนค่าเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 118.36 เยน/ดอลลาร์ โดยเงินเยนได้รับแรงกดดันหลังจาก สถาบันมูดี้ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงสู่ระดับ A1 จากระดับ Aa3 เนื่องจากความไม่แน่นอนในการฟื้นฟูความสามารถด้านการคลังของญี่ปุ่น -สถาบันมาร์กิต เผยว่า ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของยูโรโซนประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 50.1 จากเดิม 50.6 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงภาวะชะงักกันในภาคการผลิตของยูโรโซน โดยดัชนี PMI ของเยอรมนีปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนสู่ระดับ 49.5 จากระดับ 51.4 ในเดือนก่อนหน้า ส่งสัญญาณให้เห็นว่าภาคการผลิตของเยอรมนีกลับสู่ภาวะหดตัวอีกครั้ง เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อใหม่ของเยอรมนีปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี -ขณะที่ดัชนี PMI ของสเปนปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 54.7 จากเดิม 52.6 ถือเป็นการปรับตัวที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2007 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในภาคการผลิตจากยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของสเปน -ทางด้าน อิตาลี เปิดเผยว่า ข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาสที่ 3/2014 ปรับตัวลดลง 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า และหดตัวลง 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของอิตาลีได้เข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2008 -ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก ปรับตัวขึ้น 4.9% เพราะได้รับแรงหนุนจากกลุ่มนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกันหลายวันทำการ และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง -บริเวณพรมแดนอิรักและซีเรียยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่องระหว่างกลุ่ม IS และกลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ซึ่งผู้สังเกตการณ์รายงานว่า เมื่อวานนี้กลุ่มก่อการร้าย IS มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 15 ราย -ขณะที่เจ้าหน้าที่ภารกิจการเข้าช่วยเหลือทางการแพทย์ของ UN เปิดเผยวานนี้ว่า เหตุปะทะดังกล่าวนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1,234 ราย และบาดเจ็บ 2,434 ราย -เมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิด -0.29% หลังผลสำรวจของ NRF แสดงให้เห็นว่ายอดการใช้จ่ายในช่วงเทศกาล Thanksgivingลดน้อยลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2008 โดยปรับตัวลง 5.09 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 5.74 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี ISM ประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯชะลอตัว -เช้าวันนี้ ดัชนีนิก เปิดตลาด -0.62% เนื่องจากนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลหลังจากมูดี้ อินเวสเตอร์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลง 1 ขั้นสู่ระดับ A1 จาก Aa3 เมื่อวานนี้ -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ในวันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 – 32.90 บาท/ดอลลาร์ -เมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนี CPI เดือน พ.ย.57 อยู่ที่ 107.19 ลดลง 0.12% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี Core CPI อยู่ที่ 105.20 เพิ่มขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จึงคาดว่าอัตราเงินเฟ้อปีนี้อยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ 2.00-2.80% ส่วนอัตราเงินเฟ้อในปี 2558 คาดว่าจะขยายตัว 1.8-2.5% ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้ ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 59 ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 58.7 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - Fed Chair Yellen Speaks ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างมากในการซื้อขายเมื่อวานนี้ โดยในช่วงต้นปรับตัวลดลงจากข่าวผลประชามติของสวิสฯที่คัดค้านการสำรองทองคำเพิ่ม โดยลงไปทดสอบจุดต่ำสุดประมาณ 1,142.91 เหรียญ/ออนซ์ และเมื่อเข้าสู่ช่วงสายของตลาดลอนดอนเกิดมีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่นและดันให้ราคาขึ้นมายืนอยู่เหนือ 1,200 เหรียญในตลาด COMEX ซึ่งเป็นความผันผวนอย่างมาก โดยทองคำปรับขึ้นกว่า 3.62% ซึ่งคาดว่าโดยภาพหลักเป็นเรื่องของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ออกมาแย่ลง จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2464 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินบาทมีความผันผวนค่อนข้างมากและมีการขึ้นไปแตะที่ระดับ 32.92 บาท/ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี คาดว่าส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความตึงเครียดในซีเรียซึ่งยังมีการสู้รบกันค่อนข้างมาก ทางด้าน SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 717.63 ตัน สำหรับคืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในทางเทคนิคจะเห็นความผันผวนในระยะสั้นของทองคำค่อนข้างมาก ขณะที่กราฟระยะยาวเองยังเป็นแนวโน้มขาลง วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,180-1,210 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังคงแนะนำให้เข้าออกเร็ว ตามการเคลื่อนไหวของราคา - นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น เข้าออกเร็วในกรอบ 1,180-1,210 เหรียญ และปรับพอร์ตให้สมดุลกับสภาพตลาด กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ปรับพอร์ตให้สมดุลตามการแกว่ง ภาพหลักของทองคำยังเป็นขาลง Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,800 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,660 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,860 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 3) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 15 ธันวาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา) 2. MTS นำเสนอโปรแกรมการเทรด TFEX อัจฉริยะรูปแบบใหม่ Meta Trader 4 ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว มีกลยุทธ์พร้อมใช้งานแบบ Real Time และรองรับ Smart Phone ทั้ง Android และ iOS สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ