สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 3, 2014 10:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,205 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,197เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.85 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,650 บาท กับ 18,750 บาท และกลับมาปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,732 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 15,272 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 11.7 % แบบ 10 บาท ลดลง 13.9% GFZ14 ปิด 18,720 บาท และ GFG14 ปิด 18,770 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,710 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,780 บาท สัญญา Comex ร่วงลง 18.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,199.4 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ร่วงลง 2.12ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 66.88 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 720.02 ตัน (ซื้อเข้า 2.39 ตัน) ข่าวที่สำคัญ -ทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ที่ได้รับสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากสัญญาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง จึงสนับสนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มคุมเข้มนโยบายทางการเงิน และประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า ขณะที่นักลงทุนเฝ้าระมัดระวังและรอคอยผลการประชุมอีซีบีในวันพรุ่งนี้ รวมถึงการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ -นักวิเคราะห์อาวุโสจาก แอคทีฟเทรดส์ กล่าวว่า ในเชิงเทคนิคจะเห็นว่าทองคำยังคงยืนเหนือระดับสำคัญ 1,190 เหรียญได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งหากหลุดระดับดังกล่าวอาจทำให้ทองคำร่วงลงอย่างหนักไปทดสอบบริเวณ 1,140 และ 1,150 เหรียญได้ -นักวิเคราะห์จาก RJO Futures กล่าวว่า ถ้าหากเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงอยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่งต่อไป เราอาจเห็นโอกาสที่เฟดจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ และจะส่งผลกดดันให้ทองคำถูกลดความน่าสนใจและกลับสู่ภาวะขาลงอีกครั้ง -นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ทองคำและค่าเงินยูโรอาจฟื้นตัวได้ในระยะสั้นจากการประกาศเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ โดยอาจทำให้ทองคำดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1,221 เหรียญได้อีกครั้งหนึ่ง แต่หากว่าอีซีบีไม่ประกาศเริ่มต้นการเข้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม อาจทำให้เหล่าเทรดเดอร์ปิดสถานะ Short ของตนเองในการซื้อขายค่าเงินยูโร ซึ่งจะช่วยหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและจะกดดันราคาทองคำ -เมื่อวานนี้ SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 2.39 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 720.02 ตัน -ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2379 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2477 ยูโร/ดอลลาร์ และเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.2385 ยูโร/ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงสนับสนุนเชิงบวกจากเจ้าหน้าที่เฟดเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูข้อมูลภาคแรงงานของสหรัฐฯที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ -ทางด้านค่าเงินเยนกลับมาอ่อนค่าขึ้นแตะระดับ 119.24 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี 4 เดือน จากระดับ 118.28 เยน/ดอลลาร์ -นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า ค่าเงินในแถบเอเชียมีแนวโน้มจะเกิดความผันผวนมากขึ้นในปีหน้า จากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของค่าเงินดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นเหนือ 1.30 ดอลลาร์สิงคโปร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2011 -นักวิเคราะห์จาก เอบีเอ็น แอมโร รีเสิร์ต กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของสหรัฐฯปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ยอดขาดดุลของประเทศปรับตัวลดลง และยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ขณะเดียวกันสหรัฐฯจะเริ่มดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินในปี 2015 ส่วนธนาคารกลางอื่นๆ เช่น อีซีบีและบีโอเจ จะยังใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและไม่ให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเกินไป -เมื่อคืนนี้ นาย แสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวย้ำว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว จะยิ่งผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องราคาพลังงานที่อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อได้รับแรงจำกัด ซึ่งการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบจะช่วยสนับสนุนรายได้ที่แท้จริงและส่งผลเชิงบวกต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศ -นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า การประชุมอีซีบีในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) อีซีบีจะส่งสัญญาณการใช้มาตรการ QE ในปีหน้า และอาจตัดสินใจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนที่เข้าสู่ภาวะชะลอตัว รัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาส 1/2015 โดยมีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์สู่ระดับ 0.8% จากคาดการณ์เดิม 1.2% เพราะได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง -ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลดลง เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะอยู่ในระดับสูงกว่าอุปสงค์ ขณะที่รัฐบาลอิรัก ได้บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเคิร์ตเพื่อเพิ่มการส่งออกน้ำมันจากตอนเหนือของประเทศ -อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเวเนซูเอลา กล่าวว่า กลุ่มผู้นำโอเปคอาจร่วมจัดการประชุมฉุกเฉินในไตรมาสแรกของปี 2015 -สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า ปัญหาราคาน้ำมันปัจจุบันได้สร้างผลกระทบอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้อิหร่านจำเป็นต้องเดินหน้าข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติตะวันตกและผลักดันให้บรรลุผล เนื่องจากรายได้หลักของอิหร่านส่วนใหญ่มาจากการผลิตน้ำมัน และเมื่อเกิดภาวะราคาน้ำมันตกต่ำเช่นนี้อาจจะทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศเกิดภาวะซบเซาได้ -แบงก์ ออฟ ไชน่า ประเมินว่า ธนาคารกลางจีนมีโอกาสประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในปี2015 หากต้นทุนการกู้ยืมของกลุ่มบริษัทยังอยู่ในระดับสูง ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างมาก หรือการจ้างงานลดลง -สำนักข่าวฮัฟฟิ่งโพส รายงานว่า อิหร่าน ได้เปิดฉากทิ้งระเบิดเพื่อจัดการกับกลุ่ม IS บริเวณพรมแดนอิรักและซีเรีย โดยจะยังคงดำเนินการต่อไปจนกว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะคลายความตึงเครียดเพิ่มขึ้นจากการคุกคามของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส (ISIS) -เมื่อวานนี้ เพนตาก้อนระบุว่า การปฏิบัติการทางอากาศของของอิหร่าน โดยทิ้งระเบิดใส่กลุ่มIS ทางตะวันออกของอิรักนั้น สหรัฐฯ ไม่ได้เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วยเพียงแต่ให้การช่วยเหลือด้านการฝึกการสู้รบให้แก่กองทัพซีเรียเท่านั้น -อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า นาย บารัค โอบามา รออนุมัติแผนการโจมตีทางอากาศครั้งใหม่ร่วมกับตุรกีเพื่อต่อต้านกลุ่ม ISIL ที่อยู่ตามชายแดนทางตะวันตกของซีเรียให้ล่าถอยไป โดยการใช้เครื่องบินรบของสหรัฐฯ บินจากฐานทัพของตุรกี ขณะที่ทหารตุรกีจะเคลื่อนพลรุกคืบ เข้าไปเพื่อช่วยสนับสนุน และช่วยชาวซีเรียต่อสู้กับกลุ่ม ISIL -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด +0.58% เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการรายงานของกระทรวงพาณิชย์ที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 1.1% สู่ระดับ 9.71 แสนล้านดอลลาร์ฯ จึงส่งผลเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และหนุนให้ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ -เช้านี้ ดัชนีนิกเกอิ เปิด +0.62% เพราะได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ และการอ่อนค่าของเงินเยนในรอบ 7 ปี 4 เดือน จึงช่วยให้หุ้นกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกปรับตัวสูงขึ้น -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-32.92 บาท/ดอลลาร์ โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางของภูมิภาค หลังจากค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้ ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 230K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 223k ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 57.1 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 57.5 ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำยังคงผันผวนแกว่งตัวบริเวณ 1,190-1,210 เหรียญ โดยที่ปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับปานกลาง ตัวเลขทางเศรษฐกิจสำคัญเมื่อวานนี้ไม่มีการประกาศใดๆ ขณะที่ เมื่อวานนี้ SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 2.39 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 720.02 ตัน สำหรับคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ADP Non-Farm Payrolls คาดการณ์ว่าจะออกมาแย่ลง และ ISM Non-Manufacturing PMI ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าโดยในเช้าวันนี้อยู่ที่ระดับ 1.2389 ยูโร/ดอลลาร์ และค่าเงินเยนแตะระดับประมาณ 119.34 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.88 บาท/ดอลลาร์ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ราคาทองคำในระยะสั้นยังมีความผันผวนค่อนข้างมากอย่างไร้ทิศทาง อย่างไรก็ดี ในระยะยาวยังคงเป็นแนวโน้มขาลงจากการที่ราคายังอยู่ต่ำกว่าเส้น Moving Average 100 วันที่ระดับ 1,230 เหรียญ เส้นOscillator โดยทั่วไป ยังเป็นสัญญาณ Flag Trend ในลักษณะไร้ทิศทางเช่นเดียวกัน โดยที่ปริมาณการซื้อขายโดยทั่วไปปรับตัวลดลง กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ลงทุนตามกรอบบริเวณ 1,190-1,210 เหรียญ แนะนำให้ทำการซื้อขายเก็งกำไรในระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้น ตามกรอบ กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ยังคงแนะนำกลยุทธ์ขาลง เนื่องจากภาพหลักของทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,630 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,830 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,710 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,910 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 3) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 15 ธันวาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา) 2. MTS นำเสนอโปรแกรมการเทรด TFEX อัจฉริยะรูปแบบใหม่ Meta Trader 4 ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว มีกลยุทธ์พร้อมใช้งานแบบ Real Time และรองรับ Smart Phone ทั้ง Android และ iOS สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ