กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--พม.
วันนี้ (๔ ธ.ค.๕๗) เวลา ๑๑.๐๐ น. พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีมอบโล่ภูมิปัญญาผู้สูงอายุดีเด่น และผู้สนับสนุนงานคลังปัญญาผู้สูงอายุดีเด่น “งานตลาดนัดภูมิปัญญาสร้างอาชีพ ครั้งที่ ๕” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ จำนวนทั้งสิ้น ๑๐ คน ณ ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น ๔ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ตระหนักดีว่าผู้สูงอายุคือบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ที่ทรงคุณค่า สามารถสร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้แก่ครอบครัว ชุมชน และมีส่วนร่วมสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และพัฒนาสังคมได้อีกมาก จึงได้จัดทำโครงการคลังปัญญาผู้สูงอายุ โดยสืบค้นข้อมูลผู้สูงอายุที่มีความรู้และมีจิตอาสาพร้อมที่จะถ่ายทอดภูมิปัญญาช่วยเหลือสังคม ขณะนี้มีผู้ขึ้นทะเบียนคลังปัญญาผู้สูงอายุไว้แล้ว ๗๗ จังหวัด รวมจำนวน ๒๒,๖๘๗ คน แบ่งความรู้ออกเป็น ๒๓ ด้าน อาทิ ด้านการสาธารณสุขการแพทย์ แผนไทย การเกษตร ด้านศิลปวัฒนธรรมและการพัฒนาสังคมฯ เป็นต้น ปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ภูมิปัญญาผู้สูงอายุได้ออกปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเทอุทิศและอุตสาหะ มีประชาชนได้รับประโยชน์รวม ๑๒๔,๖๓๘ ราย สำหรับในส่วนกลาง ได้มีการรวมตัวจัดตั้งชมรม คลังปัญญาผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร มีสมาชิกจำนวน ๖๔๐ คน ในปีที่ผ่านมาได้จัดงานและกิจกรรมมีผู้สูงอายุที่ออกสัญจร สอนภูมิปัญญา จำนวน ๒,๕๓๒ ราย และมีประชาชนได้รับประโยชน์ จำนวน ๒๖,๑๒๕ ราย
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมของผู้สูงอายุตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ(สท.) จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับชมรมคลังปัญญาผู้สูงอายุกรุงเทพฯ จัดงานตลาดนัดภูมิปัญญาสร้างอาชีพ เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๕ จัดระหว่างวันที่ ๒-๔ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยได้เชิญภูมิปัญญาผู้สูงอายุร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ ๖๐ ร้าน ๘๒ วิชาชีพ ให้แก่ประชาชนจำนวน ๓,๐๐๐ คน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อาทิ การทำอาหาร ขนมโบราณ การร้อยมาลัย พานพุ่ม เครื่องแขวนไทย ของใช้ เครื่องประดับมุก ของตกแต่งบ้าน ศิลปะประดิษฐ์ร่วมสมัย และผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการประกวดความสามารถชิงรางวัล ตลอด ๓ วัน อาทิ ประกวดจัดสวนถาด และ การทำอาหาร
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้ความสำคัญกับงานผู้สูงอายุเสมอมา ซึ่งปีนี้ได้พัฒนารูปแบบการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุในชุมชนแบบบูรณาการ โดยส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ ๘๗๘ แห่งทั่วประเทศ ส่งเสริมงานอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน สนับสนุนกองทุนผู้สูงอายุเพื่อให้บริการกู้ยืมเงินประกอบอาชีพ และสนับสนุนกิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาผู้สูงอายุสู่สังคม และกระทรวงฯสัญญาว่าจะดูแลงานด้านผู้สูงอายุให้มีพัฒนาการความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพต่อไป