กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--ปตท.
นายสรัญ รังคสิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จึงมีมติให้เพิ่มการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันทุกชนิด (เว้น E85) อีก 50 สตางค์/ลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม2557
ถึงแม้ว่าวานนี้ (2 ธ.ค. 57) ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์จะปรับตัวกลับทิศทางภายหลังจากที่ราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ราคาน้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 82.06 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 3.55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 86.05 เหรียญ/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ปตท. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ายังสามารถปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล ได้อีก 50 สตางค์/ลิตร (เว้น E85 คงเดิม) และปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอีก 40 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันนี้ (3 ธ.ค. 57) เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย: บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 (บลู แก๊สโซฮอล E85) 22.88
น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 (บลู แก๊สโซฮอล E20) 29.88
น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 (บลู แก๊สโซฮอล 95) 33.20
น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 (บลู แก๊สโซฮอล 91) 31.18
น้ำมันเบนซิน 95 (บลู แก๊สโซลีน 95) 40.26
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (บลู ดีเซล) 28.39
สำหรับผลจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้า ยังได้ส่งผลให้ในวันนี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติปรับเพิ่มการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันในส่วนของก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ขึ้นอีก 1.03บาท/กิโลกรัม ซึ่ง ปตท. ได้พิจารณาแล้ว เห็นควรให้คงราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการไว้เท่าเดิม โดย ปตท. จะเป็นผู้รับภาระกองทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นนี้เอง เพื่อมิให้ส่งผลกระทบถึงประชาชน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังคงผันผวนปรับตัวขึ้นลงตามปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางจิตวิทยา จึงขอให้ผู้บริโภควางแผนการใช้พลังงานอย่างประหยัดและรู้คุณค่า เพื่อให้เรามีพลังงานใช้ต่อไปอย่างยั่งยืน