สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 9, 2014 09:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--MTS Gold Group ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,193 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,194เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.99 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,600 บาท กับ 18,700 บาท และกลับมาปิดที่ 18,650 บาท กับ 18,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,392 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 7,923 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.84 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 6.28% GFZ14 ปิด 18,800 บาท และ GFG14 ปิด 18,880 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,800 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,880 บาท สัญญา Comex เพิ่มขึ้น 4.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,194.9 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 2.79 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 63.05 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ขายออก 1.79 ตัน ถือครองทองคำที่ระดับ719.12 ตัน ข่าวที่สำคัญ -ทองคำกลับมาทรงตัวบริเวณ 1,200 เหรียญได้อีกครั้ง จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และการปรับตัวลงของตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อคืนนี้ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากจีนและญี่ปุ่นส่งสัญญาณชะลอตัว จึงส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าถือครองทองคำในฐานะ Safe Heaven -นักวิเคราะห์จาก RJO กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงซื้อทางเทคนิค และการทำ Short Covering จึงช่วยหนุนให้ราคาสามารถกลับมาทรงตัวเหนือ 1,200 เหรียญอีกครั้ง แต่การเคลื่อนไหวของราคา ณ ขณะนี้เป็นการเคลื่อนไหวรอผลการประชุมเฟด เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯอาจทำให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย -นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ปัจจัยสำคัญต่อตลาดทองคำ ณ ขณะนี้ คือค่าเงินดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าสูงสุดนับตั้งแต่มีนาคม 2009 ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ ยังแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี และค่าเงินเยนที่อ่อนค่าสู่กรอบบนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี -เมื่อวานนี้ SPDR ถือครองทองคำลดลง 1.79 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 719.12 ตัน ซึ่งยังคงเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีนับตั้งแต่ 23 กันยายน 2009 -ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าสู่ระดับ 1.2329 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2284 ยูโร/ดอลลาร์ โดยได้เผชิญปัจจัยลบจากแรงเทขายทำกำไรในการซื้อขายช่วงบ่าย ขณะที่เช้านี้เริ่มแข็งค่าอีกครั้งสู่ระดับ 1.2308 ยูโร/ดอลลาร์ -ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 120.43 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 121.45 เยน/ดอลลาร์ โดยค่าเงินเยนยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่อง หลังจากจีดีพีญี่ปุ่น ประจำไตรมาสที่ 3 หดตัวลงสู่ระดับ 1.9% จากประมาณการณ์ครั้งก่อน 1.6% และเช้านี้ค่าเงินเยนเริ่มกลับมาอ่อนค่าบริเวณ 120.95 เยน/ดอลลาร์ -ภาคการส่งออกจีนประจำเดือนพฤศจิกายน ขยายตัวเล็กน้อย 4.7% สู่ระดับ 2.12 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนตุลาคมที่มีการขยายตัว 11.6% ขณะที่การนำเข้าหดตัวลงสู่ระดับ 6.7% สู่ระดับ 1.57 แสนล้านดอลลาร์ -ภาคการผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีประจำเดือนตุลาคม ชะลอตัวลงสู่ระดับ 0.2% จากระดับ 1.1% แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของเยอรมนียังคงอยู่ในภาวะซบเซา ขณะที่ OECD ระบุว่า ดัชนีชี้นำกิจกรรมเศรษฐกิจของยูโรโซนประจำเดือนตุลาคม ส่งสัญญาณชะลอตัว และมีความเสี่ยงที่ยูโรโซนจะเผชิญกับภาวะหดตัวอีกครั้ง -ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ที่ระดับ 62.23 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากกระแสข่าวที่ว่า ประเทศอิรักและซาอุดิอาระเบียจะทำการปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับลูกค้าในประเทศเอเชียและสหรัฐฯ โดยจะมีการประกาศผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2015 -สำนักข่าววอชิงตันโพส รายงานว่า สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร อาจส่งกองกำลังทหารกว่า 1,500 นายเข้าสู่อิรัก รวมถึงอาจมีการช่วยฝึกกองกำลังรบของอิรักเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย IS -ขณะที่มีรายงานว่า กลุ่มก่อการร้าย IS สามารถจัดการกับกองกำลังของกลุ่มนิกายชีอะห์ หลังปะทะกันอย่างหนักในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาบริเวณทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด เพื่อเข้าควบคุมเมืองในเขตชนบทส่วนใหญ่ของอิรัก -เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.59% เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานของนักลงทุน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจของจีนและญี่ปุ่น จึงส่งผลให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก -เช้านี้ ดัชนีนิกเกอิ เปิด -0.64% เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ -นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90 – 33.15 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทยังคงอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องตามการแข็งค่าของดอลลาร์ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้ ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ - JOLTS Job Openings ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 4.74M ตัวเลขคดการณ์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.81M ทิศทางราคาทองคำ ภาพรวมของราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดิม โดยที่เคลื่อนไหวในกรอบ 1,190 –1,205 เหรียญ ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงทรงตัวในระดับอ่อนค่าเหนือระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์ ทองคำไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนักแม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 62.23 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ราคาทองคำของตลาดโลกค่อนข้างทรงตัวและไม่ค่อยตอบสนองต่อสภาวะการเคลื่อนไหวของตลาดเท่าไหร่นัก วันนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญได้แก่ JOLTS Job Openings ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.84 ล้านตำแหน่ง ในขณะที่ตลาดโลกมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการส่งสัญญาณของทางยุโรป จีน และญี่ปุ่นมากกว่า วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideways ระยะสั้น โดยเคลื่อนอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,190-1,205 เหรียญ ยังคงรอปัจจัยในการที่จะมาผลักดันทิศทางราคาทองคำ ทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 1,185 เหรียญ แนวต้านสำคัญ 1,210 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังเป็นการลงทุนตามสภาวะ Sideways โดยลงซื้อ-ขึ้นขายในระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Long Position และนักลงทุนที่ถือ Short Position เก็งกำไรระยะสั้น ตามการแกว่งตัวของตลาด ในกรอบ 1,190 – 1,205 เหรียญ กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading ปรับพอร์ตให้สมดุล เนื่องจากภาพระยะสั้นและระยะกลางราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideways ขณะที่ภาพระยะยาวยังคงเป็นขาลง Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,900 บาท Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,000 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง ประชาสัมพันธ์: 1. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 3) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 15 ธันวาคม 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 (เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา) 2. MTS นำเสนอโปรแกรมการเทรด TFEX อัจฉริยะรูปแบบใหม่ Meta Trader 4 ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว มีกลยุทธ์พร้อมใช้งานแบบ Real Time และรองรับ Smart Phone ทั้ง Android และ iOS สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777 3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น. MTS Research MTS Gold Group Phone: 02-770-7777 Fax: 02-623-9366 Email: research@mtsgoldgroup.com Website: http://www.mtsgold.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ