กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการเข้าร่วมประชุมองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เมื่อวันที่ 1-5 ธ.ค.57 ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ว่า จากวัตถุประสงค์หลักของการก่อตั้ง FAO เพื่อยกระดับการบริโภคอาหารและมาตรฐานการครองชีพของประชากรในโลกให้ดีขึ้น เพิ่มสมรรถนะในการผลิตและการจัดสรรผลิตผลการเกษตรของโลกให้สูงขึ้น รวมทั้งการปรับปรุงสภาวะของชนบทให้ดีขึ้น ทั้งนี้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของโลกส่งผลให้มนุษยชาติพ้นจากความหิวโหย นั้น จึงได้มีการประชุมสภามนตรีสมัยที่ 150 ประกอบด้วย สมาชิกที่เป็นสภามนตรี 49 ประเทศ ประเทศสังเกตการณ์ กว่า 150 ประเทศ โดยในการประชุมจะมีการพิจารณาเกี่ยวกับปัญหาและสถานการณ์เกี่ยวกับอาหารและการเกษตรของโลก มีการกำหนดแผนงานที่จะต้องดำเนินการต่อไป กำหนดงบประมาณ รวมถึงการแก้ไขและเพิ่มเติมกฎระเบียบในธรรมนูญองค์การ ในการประชุมครั้งนี้ FAO ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาด้านประมงและการเกษตร ซึ่งในที่ประชุมก็ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการดำเนินมาตรฐาน เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรประมงจึงดำเนินการเร่งรัดให้มีข้อตกลงเกี่ยวกับการใช้มาตรการในการป้องกันและขจัดการประมงที่ผิดกฎหมายของรัฐเจ้าของท่า มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ในขณะเดียวกันก็ได้เรียกร้องให้รัฐของเรือประมงปฏิบัติตามแนวทางข้อปฏิบัติที่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภามนตรี โดยที่ประชุมยังให้ความสำคัญในบทบาทของการทำประมงขนาดเล็ก และการประมงน้ำจืดเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารและขจัดความยากจน ดังนั้น FAO จึงได้เสนอแผนงานใหม่ ภายใต้ชื่อ Blue Growth Initiative (BGI) เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารและขจัดความยากจน จากการทำการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีคุณภาพ และสร้างความยั่งยืนด้วยกระบวนการบูรณาการ รวมไปถึงการคำนึงถึงสภาพสังคมและเศรษฐกิจของพื้นที่ด้วย
นายวิมล กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการเกษตรนั้น FAO ให้ความสำคัญเรื่องการผลิตที่มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน การควบคุมโรคระบาด การพัฒนาดินโดยการสร้างความร่วมมือกันของประเทศต่างๆ ผ่านกลไก หุ้นส่วนความร่วมมือดินโลก และมติที่ประชุมเห็นพ้องถึงความสำคัญของเกษตรกรรายย่อยที่มีต่อการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร รักษาสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยสมาชิกเรียกร้องให้มีนโยบายเฉพาะสำหรับเกษตรกรรายย่อย เพื่อยกระดับความสำคัญให้มากขึ้น ดังนั้นสภามนตรีจึงได้สนับสนุนให้ FAO มีแผนงานเกี่ยวกับจรรยาบรรณการใช้น้ำเพื่อการเกษตร และเสนอแนะให้สมาชิกบรรจุเรื่องการใช้น้ำ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารและความยั่งยืนของเกษตรเป็นนโยบายระดับชาติ นอกจากนี้ FAO ยังเรียกร้องให้สมาชิกดำเนินมาตรการเพื่อลดความสูญเสียด้านอาหารอย่างจริงจัง ซึ่งการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรการเกษตรและประมงอย่างคุ้มค่าถือเป็นการสนับสนุนไม่ให้เกิดความสูญเสียด้านอาหารอีกด้วย