มาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) ผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง คืนความสุขให้คนในชาติและที่สุดแห่งนโยบายรัฐบาล ในสายตาแกนนำชุมชน

ข่าวทั่วไป Monday January 5, 2015 11:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--มาสเตอร์โพลล์ มาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง คืนความสุขให้คนในชาติและที่สุดแห่งนโยบายรัฐบาล ในสายตาแกนนำชุมชน รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล ประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์(Master Poll) เรื่อง คืนความสุขให้คนในชาติและที่สุดแห่งนโยบายรัฐบาลในสายตาแกนนำชุมชน: กรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชนจำนวนทั้งสิ้น 624 ชุมชน ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 2-3 มกราคม 2557 ผลการสำรวจเมื่อสอบถามการติดตามรับชมรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อคืนวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมาพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 18.9 ระบุติดตามรับชมทุกประเด็น ในขณะที่ร้อยละ 59.4 ระบุติดตามรับชมบางประเด็น และร้อยละ 21.7 ระบุไม่ได้ติดตาม ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงความรู้สึกของกลุ่มที่ติดตามรับชมรายการคืนความสุขให้คนในชาติต่อผลงานของรัฐบาลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงในรายการพบว่า ผลการดำเนินงานด้าน “การคืนความสุขให้เกษตรกร ” อาทิ โครงการผูกปิ่นโตข้าว โครงการฟาร์มบ้านชัดเจน โครงการปลูกข้าวอินทรีย์ นั้น แกนนำชุมชนร้อยละ 62.2 ระบุรู้สึกมีความหวังในผลงานดังกล่าว ในขณะที่ร้อยละ 24.8 ระบุรู้สึกกังวลว่าจะไม่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ร้อยละ 1.3 ระบุรู้สึกเบื่อ และร้อยละ 11.7 ระบุเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร สำหรับโครงการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานต์แทนการใช้รถยนต์นั้นพบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 52.1 ระบุรู้สึกมีความหวัง ร้อยละ 31.8 ระบุรู้สึกกังวลว่าจะไม่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ร้อยละ 3.2 ระบุรู้สึกเบื่อ และร้อยละ 12.9 ระบุเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไร นอกจากนี้แกนนำชุมชนร้อยละ 54.4 ระบุรู้สึกมีความหวังกับผลการดำเนินงานด้านการปลูกฝังส่งเสริมค่านิยม 12 ประการของประชาชนในชาติ ในขณะที่ร้อยละ 32.1 ระบุรู้สึกกังวลว่าจะไม่ต่อเนื่อง ในขณะที่ร้อยละ 2.1 ระบุรู้สึกเบื่อ และร้อยละ 11.4 ระบุเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร สำหรับการรณรงค์เรื่องการปรับสภาพแวดล้อมและภูมิทัศน์ในชุมชนให้สะอาดปลอดภัย และเป็นระเบียบนั้น พบว่าแกนนำชุมชนร้อยละ 65.1 ระบุรู้สึกมีความหวัง ร้อยละ 22.5 ระบุรู้สึกกังวลว่าจะไม่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ร้อยละ 0.8 ระบุรู้สึกเบื่อ และร้อยละ 11.6 ระบุเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร ทั้งนี้แกนนำชุมชนร้อยละ 66.3 ระบุรู้สึกมีความหวังกับผลการดำเนินงานของรัฐบาลด้านการแก้ไข ช่วยเหลือพื้นฟูพื้นที่ประสบภัยธรรมชาติ ในขณะที่ร้อยละ 23.3 ระบุรู้สึกกังวลว่าจะไม่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 1.1 ระบุรู้สึกเบื่อ และร้อยละ 9.3 ระบุเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลโดยภาพรวมภายหลังที่ได้ติดตามรับชมรายการคืนความสุขให้คนในชาตินั้นพบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 43.2 ระบุมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 50.9 ระบุเชื่อมั่นเหมือนเดิม ร้อยละ 3.8 ระบุไม่เชื่อมั่นเหมือนเดิม และร้อยละ 2.1 ระบุลดความเชื่อมั่นลง ทั้งนี้เมื่อสอบถามความคิดเห็นถึงความพยายามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศนั้น พบว่าแกนนำชุมชนส่วนใหญ่คือ ร้อยละ 80.1ระบุเห็นว่ามีความพยายามมาก-มากที่สุด โดยให้คะแนนความพยายามเฉลี่ยเท่ากับ 8.28 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ประเด็นที่น่าพิจารณาคือเมื่อสอบถามความคิดเห็นถึงสถานการณ์ปัญหาที่รู้สึกกังวลมากที่สุดในวันนี้ที่พบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 35.0 ระบุรู้สึกกังวลกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่ร้อยละ 15.0 ระบุรู้สึกกังวลกับปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ชาวนา ชาวสวนยาง ร้อยละ 13.1 ระบุรู้สึกกังวลกับปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ร้อยละ 12.9 ระบุปัญหายาเสพติด ร้อยละ 11.4 ระบุปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและความรักความสามัคคีของคนในชาติ นอกจากนี้ร้อยละ 9.9 ระบุปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ ราคาสินค้า หนี้สิน และร้อยละ 2.7 ระบุรู้สึกกังวลกับปัญหาเกี่ยวที่ดินทำกิน ภัยธรรมชาติ ปัญหาการว่างงาน สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม และการปัญหาการบุกรุกป่า เป็นต้น สำหรับความคิดเห็นของแกนนำชุมชนต่อการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล นั้นพบว่า นโยบายที่แกนนำชุมชนสนใจติดตามมากที่สุด คือ นโยบายเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ/การส่งเสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจของประเทศ คิดเป็นร้อยละ 29.1 รองลงมาคือ การดำเนินงานด้านการปฏิรูปการเมือง คิดเป็นร้อยละ 24.0 นโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเกษตรกรทั้ง ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และอ้อย คิดเป็นร้อยละ 15.7 การป้องกันและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ คิดเป็นร้อยละ 9.1 การพัฒนาการศึกษาและเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน คิดเป็นร้อยละ 6.8 การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ คิดเป็นร้อยละ 6.4 การยกระดับมาตรฐานกีฬาสู่สากล คิดเป็นร้อยละ 5.5 ในขณะที่ร้อยละ 3.4 ระบุสนใจติดตามเรื่องอื่นๆ อาทิ การค้ามนุษย์ ส่งเสริมสิทธิสตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ การแก้ไขปัญหาด้านพลังงาน ความสามัคคีของประชาชน การส่งเสริมความปรองดองของคนในชาติ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน/การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามถึงการดำเนินนโยบายที่รู้สึกเป็นห่วงมากที่สุดนั้นพบว่า ร้อยละ 30.7 ระบุการแก้ไขปัญหาเรื่องข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง การแก้ไขปัญหาเกษตรกร รองลงมาคือร้อยละ 19.4 ระบุการปฏิรูปการเมือง ร้อยละ 16.8 ระบุการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ /การส่งเสริมศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ ร้อยละ 7.8 ระบุการพัฒนาการศึกษาและเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ร้อยละ 7.2 ระบุการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร้อยละ 6.1 ระบุการแก้ไขปัญหาความยากจน ในขณะที่ร้อยละ 12.0 ระบุรู้สึกเป็นห่วงในการดำเนินนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและการสร้างความเป็นธรรมในสังคม การเสนอกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ การอำนวยความยุติธรรมเพื่อลดการเหลื่อมล้ำ การเสนอร่างกฏหมายเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามลำดับ ประเด็นสำคัญสุดท้าย คือเมื่อสอบถามถึง นโยบายที่เชื่อมั่นในความสำเร็จมากที่สุด นั้นพบว่าแกนนำชุมชนร้อยละ 28.7 ระบุการป้องกันและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ รองลงมาคือร้อยละ 20.2 ระบุการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร้อยละ 19.8 ระบุการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ร้อยละ 8.2 ระบุการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ /การส่งเสริมศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจ ร้อยละ 7.3 ระบุการแก้ไขปัญหาด้านพลังงาน ร้อยละ 7.2 ระบุการแก้ไขปัญหาเรื่องข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง การแก้ไขปัญหาเกษตรกร ในขณะที่ร้อยละ 8.6 ระบุอื่นๆ อาทิ การแก้ไขปัญหาด้านพลังงาน/ การปฏิรูปกฎระเบียบของข้าราชการ/การแก้ไขปัญหาความยากจน/ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน โทรศัพท์086 - 971 7890 หรือ 02-540-1298
แท็ก community   APP  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ