แลมโบร์กินี่เปิดตัวซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษอเวนทาดอร์ แอลพี700-4 พิเรลลี่ เอดิชั่น (Aventador LP 700-4 Pirelli Edition) ฉลองการร่วมมือกันเป็นระยะเวลานานระหว่างสองแบรนด์ดัง

ข่าวยานยนต์ Monday January 19, 2015 10:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--Conjunction Public Relations แลมโบร์กินี่เปิดตัวซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษอเวนทาดอร์ แอลพี700-4 พิเรลลี่ เอดิชั่น (Aventador LP 700-4 Pirelli Edition) ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองประวัติอันยาวนานของการร่วมมือกับพิเรลลี่ ผู้ผลิตยางรถยนต์จากอิตาลี ความสัมพันธ์เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2506 ซึ่งเป็นปีที่บ้านแห่งกระทิงดุถูกก่อตั้งขึ้นและตั้งแต่นั้นเป็นต้นมารถแลมโบร์กินี่ใช้ยางพิเรลลี่มาโดยตลอด ทั้งสองบริษัทไม่ได้มีแค่ต้นกำเนิดจากอิตาลีเหมือนกันเท่านั้นแต่เป็นการใฝ่หาในนวัตกรรมด้านเทคโนโนโลยีอย่างไม่มีสิ้นสุด อเวนทาดอร์ พิเรลลี่ เอดิชั่น รุ่นใหม่ โดยมีให้ลูกค้าเลือกทั้งเวอร์ชั่นคูเป้และ เวอร์ชั่นเปิดประทุน ซึ่งสามารถสั่งจากตัวแทนจำหน่ายได้แล้วเพื่อส่งรถในต้นฤดูร้อนปี 2558 นี้ รถแข่งซุปเปอร์คาร์ยังคงมีลักษณะทางเทคนิคที่แตกต่างอย่างแรกคือตัวถังรถยนต์ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์, เครื่องยนต์ วี12, ระบบกันกระเทือนแบบก้านกระทุ้ง และระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ทั้งหมดนี้ขีดเส้นใต้ความสำเร็จระดับโลกของอเวนทาดอร์ พิเรลลี่พิเศษรุ่นนี้ปรับปรุงขึ้นด้วยอุปกรณ์พิเศษออกแบบมาโดยเฉพาะโดย Lamborghini Centro Stile ภายนอกเป็นสีทูโทนมาในสองรูปแบบ แบบแรกเป็นสีดำด้านสำหรับหลังคารถ,โครงรถด้านบน,กระจกข้าง,ฝากระโปรงเครื่องยนต์, ช่องสำหรับลมเข้าด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง ในส่วนของตัวถังรถมีสีแบบเคลือบเงาให้เลือกหลายสี Bianco Isis, Nero Aldebaran, Giallo Spica, Rosso Mars, Grigio Ater หรือ Grigio Liqueo ออพชั่นที่สองเป็นสีดำมันวาวสำหรับหลังคารถ, โครงรถด้านบน, ช่องสำหรับลมเข้า ให้สีตัดกับตัวถังรถสีด้าน 4 สีได้แก่ Bianco Conopus, Nero Nemesis, Grigio Adamas, และ Grigio Titans อีกหนึ่งส่วนประกอบที่สร้างความแตกต่างให้กับตัวรถคือเส้นสีแดงบนหลังคาไปจนถึงฝากระโปรงเครื่องยนต์, กระจกข้าง, ขอบช่องสำหรับลมเข้า ซึ่งมีลักษณะรูปแบบที่ออกแบบมาเพื่อให้นึกถึงแบรนด์พิเรลลี่ โลโก้พิเรลลี่ทีมีสีแดงสามารถมองเห็นได้อยู่ตรงจุดเริ่มต้นของเส้นบนหลังคาและบนล้อรถ เครื่องมือมาตรฐานสำหรับภายนอกรถยนต์ได้แก่ฝากระโปรงเครื่องยนต์แบบโปร่งใส, ส่วนกั้นแยกเครื่องยนต์ด้วยคาร์บอน, ล้อ 20”/21” สีดำมันวาว, ยางพิเรลลี่ P Zero มากับโลโก้สีแดงละเส้นรอบล้อสีแดงเป็นวงกลม ภายในของอเวนทาดอร์ พิเรลลี่ เอดิชั่น มีเบาะสีดำตัดกับรอยเย็บสีแดง เส้นสีแดงบนตัวรถนั้นมีภายในรถด้วยวิ่งจากหลังคาภายในและที่นั่งมีสัญลักษณ์ตราแลมโบร์กินีและพิเรลลี่ปักเป็นสีแดง หนังหุ้มประตูด้านในและข้างที่นั่ง และรถแต่ละคันจะมีแผ่นเหล็กเขียนว่า “Pirelli special series” ด้านในอีกด้วย ระบบส่งกำลังแรงถึง 515 กิโลวัตต์ (700 แรงม้า) ที่ 8250 U/นาที รวมกับชุดส่งกำลัง ISR ที่รวดเร็วมากทำให้รุ่นพิเรลลี่มีสมรรถนะระดับสูง อัตราการเร่งเครื่อง 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง ความสัมพันธ์แลมโบร์กินีและพิเรลลี่มากกว่า 50 ปี การร่วมมือกันระหว่างแลมโบร์กินีและพิเรลลี่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2506 เป็นปีที่เฟอรุชชิโอ แลมโบร์กินีหันไปหาพิเรลลี่เพื่อผลิตยางให้กับรถคันแรกของบริษัทยานยนต์ที่ตั้งขึ้นใหม่ แลมโบร์กินี รุ่น 350 GTV ถูกนำเสนอเป็นต้นแบบที่งานมอเตอร์โชว์ทูรินในปีเดียวกัน โมเดลนี้รวมถึงเวอร์ชั่นสตรีทที่ถูกนำเสนอในปีต่อมาที่งานเจนีวามอเตอร์โชว์ รุ่น 350 GT ยาง Pirelli Cinturato HS ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับรถแข่งโดยเฉพาะรถที่สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตัวย่อ HS หมายถึง High Speed หรือความเร็วสูง เพื่อแสดงความสามารถของยางที่ทนต่อความเร็วสูงของรถแข่งที่พัฒนาขึ้นใหม่ในยุค 60s ปี 2509 เป็นปีที่กำหนดการยืนยันของแบรนด์แลมโบร์กินีด้วยการนำเสนอรถที่เป็นดั่งตำนานรุ่น Miura รถแลมโบร์กินี 350 GT และ 400 GT ใช้ยางรุ่น Cinturato HS CN72 ขนาด 205 VR 15 ยางใหม่นี้ทำให้เสียงเงียบขึ้นออกแบบเพื่อให้ความสะบายมากขึ้นเพื่อต่อมาให้ใช้กับรถแลมโบร์กินีรุ่นต่อไปอย่างเช่น รุ่น Espada ซึ่งปรากฏขึ้นในปี 2511 ในหลายปีต่อมาแลมโบร์กินีขอให้ผลิตยางรุ่น series 70 ให้แก้มยางรถลดลงเมื่อเทียบกับความกว้างของดอกยางออกแบบมาเพื่อปรับปรุงเวลาเข้าโค้ง พิเรลลี่จึงได้นำเสนอยางรุ่น Cinturato CN73 ขนาด 225/70 VR 15 ซึ่งกลายมาเป็น Pirelli P7 ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นยางที่ใช้สำหรับรถแข่งรุ่นใหม่ในขณะนั้นคือ Countach และตลอดทศวรรษในช่วงยุค 70s ในปี 2531 เปิดตัวแลมโบร์กินีรุ่น Countach “Anniversary” เวอร์ชั่น ฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 25ปี และถือเป็นรถแข่งคันแรกๆที่ใช้ยางใหม่ Pirelli P Zero ความสัมพันธ์ระหว่างพิเรลลี่และแลมโบร์กินีไม่ได้จำกัดอยู่ที่ด้านเทคโนโลยีอย่างเดียว โฆษณาของพิเรลลี่มักจะใช้รถซุปเปอร์คาร์จากบ้านกระทิงดุเสมอ อย่างเช่นรถแลมโบร์กินีรุ่น Countach Anniversary อยู่ในโฆษณาพิเรลลี่หลายตอนที่มุ่งหวังเจาะตลาดอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรถรุ่น Miura ที่แสดงอยู่ในโฆษณาในปี 2513 สำหรับอุปกรณ์ที่มีชื่อเสียงกับหัวข้อ “The Miura chose Pirelli Cinturato” ในขณะเดียวกันนั้นระหว่างปี 2529 และ 2531 แลมโบร์กินีผลิตรถซุปเปอร์ออฟโรดที่เรียกว่า LM002 ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงรถ SUVs ที่หรูหราทันสมัย พิเรลลี่ออกแบบยางรุ่น Scorpion ด้วยนวัตกรรมที่ใช้เคฟลาร์ในตัวโครงสร้างยางรถและสร้างยางแบบ run-flat หรือยางที่วิ่งได้แม้ไม่มีลมยาง รถ LM002 เข้าร่วมการแข่งขัน Paris-Dakar แรลลี่ในปี 2531 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันร่วมกันของแลมโบร์กินีและพิเรลลี่ ความร่วมมือกันในการแข่งกีฬาของทั้งสองแบรนด์ยังคงเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง พิเรลลี่เป็นผู้สนับสนุนหลักในการแข่งขัน Lamborghini Blancpain Super Trofeo อีกด้วย ปี 2533 เป็นปีที่ Lamborghini Diablo ได้มาถึงและผลิตขึ้นทั้งหมด 3000 คัน และทุกคันใช้ยางพิเรลลี่ PZero ขณะที่ต้นปี 2543 เป็นยุคของ Mercielago (ปี2545) และ Gallardo (ปี2546) ทั้งสองรุ่นใช้ยาง PZero Rosso ในปี 2550 Lamborghini Gallardo อยู่ในภาพยนต์ของพิเรลลี่ชื่อ “Mission Zero” แสดงโดย อูม่า เธอร์แมน และเปิดตัวยางพิเรลลี่ Winter Sottozero II ที่เมืองเซอร์แมทในปี 2551 เทคโนโลยีของพิเรลลี่และความปลอดภัยควบคู่ไปกับรถซุปเปอร์คาร์แห่งบ้านของกระทิงดุ Lamborghini Veneno รถในฝันที่สร้างขึ้นมาเพื่อฉลองแลมโบร์กินีครบรอบ 50ปี กับยางพิเรลลี่ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะมีโลโก้สีแดงที่ทำให้นึกถึงยางรุ่น PZero Formula One และล่าสุดกับแลมโบร์กินีรุ่น Huracan ใส่ยาง P Zero ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะและมีสัญลักษณ์บนล้อคือตัวอักษร “L” เกี่ยวกับนิช คาร์ บริษัท นิช คาร์ คือ ผู้แทนจำหน่ายแบรนด์ยานยนต์ระดับชั้นนำของประเทศไทย และผู้แทนจำหน่าย แลมโบร์กินีอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2529 แลมโบร์กินี ดิอาโบล ถือเป็นรถยนต์คันแรกที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นของหน้าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่าง นิช คาร์ และ แลมโบร์กินี จวบจนปัจจุบัน เป็นระยะเวลาร่วมเกือบ 30 ปี ด้วยวิสัยทัศน์อันแข็งแกร่งของ คุณเสรี ชินบารมี ประธานบริษัท ทำให้แลมโบร์กินีเติบโตเเละประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยสามารถทำยอดขายประจำปีทะลุเป้าภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือนแรก และในปี พ.ศ. 2557 นิช คาร์พร้อมส่งต่อความสำเร็จครั้งใหม่ ด้วยการเปิดตัวโชว์รูมแฟลกชิพของแลมโบร์กินีอย่างเป็นทางการในกรุงเทพมหานคร ภายใต้การนำทัพของทายาทรุ่นที่ 2 อย่างคุณวิทวัส ชินบารมี ซึ่งเป็นทั้งลูกชาย และหุ้นส่วน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการให้คำมั่นสัญญาที่จะทำหน้าที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ดีเยี่ยมที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการมอบประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ การบริการระดับเวิดล์คลาสให้กับกลุ่มลูกค้าคนพิเศษของแลมโบร์กินีในประเทศไทย กรุณาเข้าเยี่ยมชมเว็ปไซต์ นิช คาร์ ได้ที่ http://www.nichecars.co.th/ เกี่ยวกับ ออโตโมบิลี แลมโบร์กีนี ออโตโมบิลี แลมโบร์กีนีก่อตั้งในปี ค.ศ. 1963 มีสำนักงานใหญ่ในเมืองเซ็นต์ อกาต้า โบโลญเนสภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี รถยนต์รุ่นแลมโบร์กีนี ฮูราแคน แอลพี 610-4 ซึ่งเปิดตัวไปทั่วโลกในงาน เจนีรวา มอเตอร์โชว์ 2014คือการต่อยอดความสำเร็จจากรุ่น แลมโบร์กีนีกัลญาร์โด้ ซึ่งเป็นการนำเสนอประสบการณ์ใหม่แห่งการขับขี่ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ระดับหรูที่ถึงพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและสมรรถนะที่เหนือชั้น ส่วนรุ่นแลมโบร์กีนี อะเวนตาโดร์ แอลพี 700-4 ซึ่งนำเสนอทั้งแบบคูเป้และโร้ดสเตอร์ถือเป็นแบบฉบับของซูเปอร์สปอร์ตคาร์ระดับหรูที่ใช้เครื่อง V12 จนเป็นที่จับตามองไปทั่วโลก ในช่วงเวลาราวครึ่งศตวรรษ แลมโบร์กีนี ได้สร้างสรรค์ยานยนต์ชั้นเลิศระดับเอ็กซคลูซีฟหลายซีรี่ส์ อาทิ ลัมโบร์กีนี 350 จีที, มิวร่า, เอสปาด้า, คูนทัช, ดิอาโบล, มูร์เซียลาโก ตลอดจนรุ่มลิมิเต็ดซีรี่ส์ทั้งรุ่นเรเบนตัน, เซสโต เอเลเมนโต และ อะเวนตาโดร์ เจ โดยรุ่น อะเวนตาโดร์ คูเป้, อีโกอิสต้า และ เวเนโน โร้ดสเตอร์ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี แลมโบร์กีนี ในปี ค.ศ. 2556 ที่ผ่านมา หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ออโตโมบิลี แลมโบร์กีนี กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์www.lamborghini.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ