กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมกรอบแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 โดยมีผู้บริหารระดับสูง วธ. เข้าร่วมจำนวนมาก ว่า หลังจากได้เข้าร่วมรับฟังการมอบนโยบายในการสัมมนาการเตรียมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2559 ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บางกอก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมานั้น การจัดทำแผนงบประมาณปี 2559 ของ วธ.จะยึดหลักการและแนวใน 3 ส่วน 1.นโยบายรัฐบาลส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวง อาทิ การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ การแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยใช้มิติทางวัฒนธรรม การใช้มิติทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับนานาชาติ เสริมสร้างภาพลักษณ์และสร้างเกียรติภูมิของประเทศ รวมทั้งการนำความเป็นไทยสู่สากล และการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และการเสริมสร้างค่านิยมหลัก 12 ประการที่ต้องดำเนินต่อเนื่องจากปี 2558
นายวีระ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ 2.นโยบายสำคัญและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของ วธ. ได้แก่ การผลิตภาพยนตร์ เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ วัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย การขับเคลื่อนงานหมู่บ้านรักษาศีล 5 รวมถึงการเชื่อมโยงกับการใช้หลัก “บวร” นอกจากนี้จะเน้นการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ทั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ ศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ และนโยบายที่นายกรัฐมนตรี มอบหมายล่าสุดให้ขับเคลื่อนคือ การสร้างเด็กและเยาวชนที่มีคุณภาพและมีค่านิยมหลัก ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้บริหาร วธ. ว่าการจัดทำแผนงบประมาณปี 2559 ต้องเน้นทำแผนรองรับยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศไทย “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ของนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและสร้างความมั่งคั่งให้เกิดขึ้น โดยต้องขับเคลื่อนงานแบบยั่งยืน อย่างเช่น โครงการตลาดนัดศิลปะ การเปิดพื้นที่ให้ชุมชนและประชาชนนำสินค้นทางวัฒนธรรมมาจัดจำหน่ายเพื่อเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ตามนโยบายรัฐบาล
รมว.วธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การจัดทำแผนงบประมาณปี 2559 จะยึดนโยบาย 3 ด้าน 8 จุดเน้นที่ได้แถลงในวันเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 เนื่องจากมีหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน อาทิ 1.การสร้างเสริมสังคมแห่งสันติสุข โดยใช้มิติทางวัฒนธรรม คุณธรรม จริยธรรม และส่งเสริมค่านิยมและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับบริบทสังคมสมัยใหม่ บนพื้นฐานของหลักศาสนาและวิถีชีวิตความเป็นไทย เช่น วัฒนธรรมการอ่าน การรณรงค์ส่งเสริมความเป็นไทย วิถีไทย และ 2.การพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรม เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน ชุมชน และประเทศ รวมถึงการพัฒนาและเปิดพื้นที่ทางวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้และการท่องเที่ยว เช่น ศูนย์วัฒนธรรม โรงละคร หอสมุด หอจดหมายเหตุ พิพิธภัณฑ์ อุทยาน โบราณสถาน ชุมชนวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม/ถนนคนเดิน เป็นต้น
นายวีระ กล่าวต่อว่า 3.พัฒนาระบบฐานข้อมูลทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมสู่ระบบดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารสมัยใหม่ ให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.พัฒนากฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้มีความทันสมัยและเอื้อต่อการดำเนินงานด้านศิลปวัฒนธรรมทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ 5.พัฒนาระบบบริหารจัดการ โครงสร้างและบุคลากรของ วธ. และภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม เพื่อเตรียมพร้อมกับการปฏิรูปประเทศ และการเป็นประชาคมอาเซียน 6.ส่งเสริมบทบาทของศิลปินและชุมชนในการนำทุนทางวัฒนธรรมในการสร้างอาชีพและรายได้ และส่งเสริม สนับสนุนการสืบทอดศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเน้นมีส่วนร่วมของชุมชน 7.พัฒนาการจัดการศึกษาเฉพาะด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้มีความเลิศและเป็นผู้นำด้านการเรียนการสอน การสร้างสรรค์ การเผยแพร่และแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมของอาเซียน โดยแลกเปลี่ยนศิลปะการแสดง งานหัตถศิลป์ ครูอาจารย์ นักเรียนนักศึกษาและการวิจัย และ 8.การสานต่อโครงการสำคัญๆ กระทรวงต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากนี้แต่ละกรมจะกลับไปจัดทำรายละเอียดแผนงานและกิจกรรม เพื่อรองรับแผนของบประมาณปี 2559 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเร็วๆนี้