กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--สกย.
เมื่อเร็วๆ นี้ สกย. ในฐานะหนึ่งในห้าหน่วยงานภาครัฐ ได้รับใบประกาศเกียรติคุณในวันศุลกากรสากล ประจำปี 2558 โดยได้รับการยกย่องในฐานะองค์กรที่ได้มีการพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบNational Single Window (NSW) ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกและยกระดับด้านการค้าของประเทศ ภายในงาน ได้รับเกียรติจาก ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณจากองค์การศุลกากรโลก ให้แก่ข้าราชการกรมศุลกากร หน่วยงานราชการ และภาคเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการชายแดนร่วมกัน ณ บริเวณห้องโถง อาคาร 1 กรมศุลกากร
ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวในพิธีเปิดว่า องค์การศุลกากรโลก (World Customs Organization : WCO) ได้กำหนดให้วันที่ 26 มกราคมของทุกปีเป็นวันศุลกากรสากล และประเทศสมาชิก WCO จะจัดงานเฉลิมฉลองวันศุลกากรสากลในวันดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้มีการมอบใบประกาศเกียรติคุณ ตามหัวข้อที่กำหนดในแต่ละปี ซึ่งถือเป็นช่องทางที่ศุลกากรจะได้สื่อสารถึงสถานะหรือความก้าวหน้าของงาน ศุลกากร การทำงานในประเด็นที่วงการศุลกากรให้ความสำคัญ หรือแสดงให้เห็นถึงประเด็นที่โดดเด่นของประเทศ สมาชิกในปีนั้นๆ ให้หน่วยงานที่ทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงให้สังคมภายนอกได้รับรู้ สำหรับในปี 2558 นี้ หัวข้อที่องค์การศุลกากรโลกกำหนด คือ “Coordinated Border Management: An Inclusive Approach for Connecting Stakeholders” หรือ การบริหารจัดการชายแดน ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่รวมเอาความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงานบริเวณชายแดนมาไว้ด้วยกัน ในการนี้ กรมศุลกากรในฐานะที่เป็นสมาชิกและให้ความร่วมมือกับกิจกรรมต่างๆ ขององค์การศุลกากรโลกมาโดยตลอด ได้จัดพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณซึ่งลงนามโดยเลขาธิการองค์การศุลกากรโลก Mr. Kunio Mikuriya ให้แก่ ข้าราชการกรมศุลกากร และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการชายแดนร่วมกับกรมศุลกากร โดยได้คัดเลือกผู้แทนจากหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในโครงการที่มีผลงานโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมศุลกากรผ่านระบบ National Single Window หรือ NSW คณะทำงานศึกษาและจัดเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการชายแดนร่วมกันของกรมศุลกากร
นายยุทธนา หยิมการุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะคณะกรรมการสงเคราะห์การทำสวนยาง (ก.ส.ย.) กล่าวว่า สกย.เป็นองค์กรที่มีความสำคัญระดับประเทศ เพราะนอกจากจะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางแล้ว ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล ทั้งนี้ การที่ สกย.นำระบบเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (National Single Window) มาใช้ จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเก็บเงินสงเคราะห์ (Cess) ซึ่งสามารถทำให้กระบวนการดำเนินการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ต้องได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงิน และบริษัทเอกชนที่ส่งยางออกนอกราชอาณาจักรด้วย เพื่อให้ระบบนี้สามารถทำงานได้อย่างมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตามวัตถุประสงค์ที่ได้วางไว้ โดยโครงการนี้ เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสาร เป็นนโยบายที่สำคัญของภาครัฐ ซึ่งมีกรมศุลกากรในฐานะเจ้าภาพหลัก พยายามเร่งรัดให้ดำเนินการใช้บริการผ่านระบบนี้มากขึ้น ในปีนี้ 35 หน่วยงานที่ได้ลงนามความร่วมมือพัฒนาใช้บริการระบบนี้ร่วมกัน จะมีการใช้งานผ่านระบบนี้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้อำนวยความสะดวก และร่นระยะเวลาได้มากพอสมควร และที่สำคัญ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน