รมว.พม.กำชับเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือเยียวยาเด็กหญิง ๓ คนพี่น้อง จากกรณีญาติมักนำเด็กไปเร่ร่อน และอาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ ที่ จ.พิจิตร

ข่าวทั่วไป Monday February 9, 2015 09:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๙๓/๕๗-๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีพบเด็กหญิง ๓ คนพี่น้อง อายุ ๓ ขวบ ๕ ขวบ และ ๘ ขวบ อาศัยอยู่กับยายทวด อายุ ๗๗ ปี ไม่สามารถดูแลเด็กทั้งสามคนได้ จึงมักมีญาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม นำเด็กไปเร่ร่อนและทิ้งไว้ อีกทั้งครูที่โรงเรียนยังแจ้งว่าบางครั้งมีชายแปลกหน้ามาที่โรงเรียน เพื่อขอรับตัวเด็กหญิงออกไปข้างนอก ทั้งที่ไม่ใช่ญาติ แต่ทางโรงเรียนเห็นผิดสังเกตจึงไม่ยอมให้เด็กออกไป นอกจากนี้ยังเคยพบว่า เด็กหญิงอายุ ๓ ขวบ อวัยวะเพศมีหนอง จนต้องพาส่งโรงพยาบาล แต่ทางญาติพาหนี ซึ่งปัจจุบันมีอาการน่าเป็นห่วง เนื่องจากเด็กมีอาการหวาดผวาตลอดเวลานอน ที่จังหวัดพิจิตร ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร (พมจ.พิจิตร) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กทั้งสามคนอย่างเร่งด่วน และหากตรวจสอบพบว่าทางครอบครัวไม่สามารถดูแลเด็กได้ ให้นำเด็กมาอยู่ในความดูแลของกระทรวงฯ ต่อไป พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า กรณีครูสาวโรงเรียนชั้นประถมศึกษาแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เข้าร้องทุกข์กับผู้จัดการโครงการกฎหมายบ้านปลาดาวเชียงราย ซึ่งให้ช่วยเหลือกรณีถูกผู้อำนวยการโรงเรียน ทำอนาจารในห้องน้ำ พยายามปลุกปล้ำและลวนลาม ซึ่งเคยไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจภูธรแม่สาย เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๘ แต่เรื่องก็เงียบหาย และกรณีเด็กสาวอายุ ๑๕ ปี ถูกชายหนุ่มที่อ้างว่า เป็นเพื่อนแฟน บังคับข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมขโมยโทรศัพท์มือถือและเงินสดหนีไป ซึ่งมารดาได้พาเข้าแจ้งความแล้วที่สถานีตำรวจภูธรคลองหาด จังหวัดสระแก้ว แต่กลับมีโทรศัพท์โทรมาแจ้งไม่ให้เอาเรื่อง ยินดีจะจ่ายเงินค่าเสียหายให้ มารดาของเด็กสาวเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ซึ่งทั้ง ๒ กรณีนี้ ตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย (พมจ.เชียงราย) และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว (พมจ.สระแก้ว) เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหายและครอบครัวอย่างเร่งด่วน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการดำเนินคดีต่อไป “กรณีพบอดีตทหารพรานผ่านศึกอายุ ๘๑ ปี พักอาศัยอยู่ชุมชนพญาเสือ เทศบาลนครพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก มีจิตอาสา โดยทุกเช้าจะออกมากวาดถนนรอบชุมชน ซึ่งปฏิบัติแบบนี้มากว่า ๑๐ ปีแล้ว จนเป็นที่รักของเพื่อนบ้าน ตนขอ ชื่นชมในการทำความดีเพื่อสังคม มีจิตอาสาช่วยเหลือชุมชน และขอส่งกำลังใจให้กับผู้ที่จะกระทำความดี โดยไม่หวังผลตอบแทน และมุ่งจุดประกายสังคม “ส่งเสริมการทำความดี ทำได้ทุกที่ ไม่ว่าคุณเป็นใคร” เพื่อสังคมของเราจะได้ น่าอยู่ยิ่งขึ้น” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ