กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,228.58-1,236.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,050 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG15 อยู่ที่ 19,170 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,050 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.14 น.ของวันที่ 16/02/15)
แนวโน้มวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558
ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐส่งผลกระทบต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลงและหนุนความน่าสนใจในการเข้าซื้อทองคำให้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม และนักลงทุนยังคงชะลอการเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อข้อมูลราคานำเข้าร่วงลง 2.8% ในเดือนมกราคมและลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน โดยเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จนสามารถปิดตลาดในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน หลังเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 4 ส่งผลให้สกุลเงินยูโรสามารถปรับตัวขึ้น 0.7% ในสัปดาห์ที่ ผ่านมาซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำเมื่อขยับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา จากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นจากข่าวการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐปิดที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม หลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากข้อมูลจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลง 84 แท่น สู่ระดับ 1,056 แท่น ซึ่งถือว่าดิ่งลงจนแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2011 ในระยะสั้นการประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้งและหากสามารถผ่านแนวต้านแรกได้ราคามีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,215 หรือ 1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลังแบบแกว่งตัวในแบบย้ำฐาน โดยหากมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,240-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,215 (18,710บาท) 1,208 (18,600บาท) 1,195 (18,400บาท)
แนวต้าน 1,240 (19,110บาท) 1,250 (19,270บาท) 1,260 (19,430บาท)
GOLD FUTURES (GFG15)
แนวรับ 1,215 (18,880บาท) 1,208 (18,770บาท) 1,195 (18,570บาท)
แนวต้าน 1,240 (19,260บาท) 1,250 (19,420บาท) 1,260 (19,580บาท
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148