กรุงเทพ--15 ม.ค.--ลูเซนท์ เทคโนโลยีส์
ลูเซนท์ เทคโนโลยี่ส์ ไมโครอีเล็คโทรนิคส์ พีทีอี จำกัด และบริษัท ชาร์เตอร์ เซมิคอนดัคเตอร์ แมนูแฟ็คเจอริ่ง จำกัด ประกาศก่อตั้งบริษัทร่วมทุนมูลค่า 1,000 ล้าน เหรียญสหรัฐเพื่อผลิตแผ่นวงจรไอซีในสิงคโปร์ บริษัทร่วมทุนนี้ชื่อว่า บริษัท ซิลิคอน แมนูแฟ็คเจอริ่ง พาร์ทเนอร์ส พีทีอี จำกัด ซึ่งจะรับคนเข้าทำงานประมาณ 800 คน
บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะผลิตแผงวงจรรวมหลายประเภทโดยใช้เทคโนโลยีขบวนการผลิตที่พัฒนาโดยเบลล์ ลาบอราทอรีส์ ของลูเซนท์ และของบริษัท ชาร์เตอร์
ความร่วมมือระหว่างลูเซนท์และชาร์เตอร์ช่วยให้แต่ละบริษัทสามารถลดจำนวนเงินลงทุนในการสร้างโรงงานผลิตแผ่นวงจรไอซี และยังสามารถตอบสนองความต้องการแผงวงจรรวมแบบใหม่ทั่วโลกได้อีกด้วย การผลิตแผ่นวงจรไอซี จะส่งให้แก่ลูกค้าทั่วโลกของลูเซนท์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ และในส่วนของบริษัท ชาร์เตอร์ ก็จะส่งสินค้านี้ให้กับลูกค้าทั่วโลก
มร. จอห์น ดิคสัน ประธาน กลุ่มไมโครอีเล็คโทรนิคส์ ของลูเซนท์ เทคโนโลยี่ส์ อิงค์ กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นหนึ่งในธุรกิจผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก การเป็นพันธมิตร ทางการค้ากับชาร์เตอร์ทำให้เรามีแหล่งทรัพยากรที่สำคัญและมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจที่ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า เรายินดีที่ได้ร่วมงานกับบริษัทที่เป็นที่ รู้จักกันดีในฐานะผู้นำด้านการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ และเราจะถือโอกาสนี้ขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้ อันเป็นหัวใจของแผนการขยายธุรกิจของลูเซนท์”
มร. ดิคสัน กล่าวเสริมว่า ในปี 2540 ที่ผ่านมา รายได้ของผลิตภัณฑ์เซมิคอนดัคเตอร์ของลูเซนท์ ประมาณหนึ่งในสามมาจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค
บริษัทร่วมทุนใหม่นี้จะตั้งอยู่ในเขตโรงงานผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ของชาร์เตอร์ในนิคมอุตสาหกรรมวู้ดแลนด์ ในสิงคโปร์
มร. ตัน บ็อค เซ็ง ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหาร บริษัท ชาร์เตอร์ กล่าวว่า “การที่ชิพทุกวันนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้บริษัทต่างๆ ต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การก่อตั้งบริษัท ซิลิคอน แมนูแฟ็คเจอริ่ง พาร์ทเนอร์ ทำให้ลูเซนท์และชาร์เตอร์บรรลุวัตถุประสงค์นี้ได้ จากความร่วมมืออันดีและความสามารถในการพัฒนาขบวนการผลิตและเทคโนโลยีการผลิตแผ่นวงจรไอซี ทำให้เราสามารถผลิต IC คุณภาพสูงกว่าได้เร็วกว่าการผลิตเองโดยลำพัง ลูกค้าทุกระดับของเราจะได้รับประโยชน์นี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานกับผู้นำระดับโลกอย่างลูเซนท์และหวังว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะก่อให้เกิดความร่วมมือด้านอื่นๆ ในลำดับต่อไป”
มร. จอร์จ เบิร์น ประธานของบริษัทวิจัยกลยุทธ์การตลาดได้กล่าวว่า “การมีบริษัทร่วมทุนใหม่ในสิงคโปร์แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตแผ่นวงจรไอซี ซึ่งต่างก็อยู่ในฐานะที่ทัดเทียมกัน สิ่งที่ลูเซนท์ได้รับ คือ แผ่นวงจรไอซี และกำลังผลิตซึ่งใช้ขบวน การผลิตระดับมาตรฐานโลกที่ใช้เวลาน้อย สิ่งที่บริษัทชาร์เตอร์ได้รับคือ เทคโนโลยีในการผลิตที่กว้างขวางขึ้น ซึ่งทำให้ลูกค้าได้ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดส่วนหนึ่งของลูเซนท์ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ กล่าวได้ว่าทำให้บริษัท ชาร์เตอร์ ก้าวขึ้นมาอยู่ระดับแนวหน้าของโรงงานผลิตแผ่นวงจรไอซี
สำหรับบริษัทร่วมทุนใหม่นี้ ลูเซนท์ เทคโนโลยี่ส์ ไมโครอีเล็คโทรนิคส์ พีทีอี จำกัด จะถือหุ้นร้อยละ 51 บริษัท ชาร์เตอร์ ถือหุ้นร้อยละ 49 ทั้งสองบริษัทจะมีส่วนร่วมในผลผลิตที่ได้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาสที่สี่ของปีนี้
ในระยะเริ่มแรกของการผลิตนั้น บริษัทร่วมทุนจะผลิตแแผ่นวงจรไอซี ขนาด 8 นิ้ว โดยใช้ เทคโนโลยีของขบวนการผลิตขนาด 0.25 ไมครอน ซึ่งหมายถึงขนาดของชิพที่เล็กที่สุด คือมีขนาดเพียง 1 ใน 500 ของขนาดเส้นผมมนุษย์ เมื่อมีการผลิตเต็มอัตราแล้ว จะสามารถผลิตแผ่นวงจรไอซี ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 26,000 แผ่นต่อเดือน บริษัทร่วมทุนใหม่นี้คาดว่าจะสามารถผลิตโดยใช้เทคโนโลยีของขบวนการผลิตขนาด 0.18 ไมครอน ภายในปี 2543
ลูเซนท์มีพนักงานประมาณ 1,400 คนในประเทศสิงคโปร์ ทำงานในโรงงานฝ่ายผลิตและทดสอบเซมิคอนดัคเตอร์ ของกลุ่มลูเซนท์ เทคโนโลยี่ส์ ไมโครอีเล็คโทรนิคส์ ฝ่ายค้นคว้าวิจัยและพัฒนาของเบล์ ลาบอราทอรีส์ ก็ตั้งอยู่ที่แห่งเดียวกัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจอื่นๆ ของลูเซนท์ในสิงคโปร์อีก ได้แก่ โกลบัล เซอร์วิส โพรไวเดอร์ เครือข่ายสื่อสารไร้สาย ผลิตภัณฑ์เครือข่าย บิสซิเนส คอมมูนิเคชั่นส์ ซิสเต็มส์ ระบบเครือข่ายข้อมูล เครือข่ายสื่อสารออพติค และระบบส่งสัญญาณและระบบสวิตชิ่ง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณกฤษณา ตันติวณิชย์ โทร. 9090250 โทรสาร 909 0243--จบ