กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
- ราคาทองคำลงแรงจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐแข็งแกร่ง
- SPDR ลดปริมาณการถือทองลง 4.48 ตัน
- ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,160 และ 1,150 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 มี.ค.) ปรับตัวลงแรง 32 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 1,165 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งทำจุดต่ำสุดในรอบ 9 สัปดาห์และปรับตัวลงแรงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2556 เป็นผลจากการเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสุดในรอบ 11 ปีครึ่งกดดันต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงกว่า 4%
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 295,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 239,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้จะเพิ่มขึ้น 240,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปีครึ่ง จากระดับ 5.7% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ทั้งนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ แต่จากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งติดต่อกันหลายเดือนทำให้คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
สัปดาห์นี้สหรัฐมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไม่กี่ตัว ที่สำคัญจะเป็นยอดค้าปลีกและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงปลายสัปดาห์ ดังนั้นคาดว่าราคาทองคำจะมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงต้นสัปดาห์ แต่ยังต้องระวังแรงเทขายในปลายสัปดาห์ เนื่องจากตลาดคาดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาดี
การเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ในทิศทางขาลง โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,160 และ 1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ โดยทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 1,132 ดอลลาร์/ออนซ์ที่เป็นจุดต่ำสุดของราคาทองคำในเดือนก.ค.2557 แต่คาดว่าจะไม่ปรับลงแรงถึงระดับดังกล่าวในระยะสั้น คาดความต้องการทองคำจริงจากจีนยังแข็งแกร่งสะท้อนจากค่าพรีเมี่ยมในตลาด Shanghai Gold Exchange อยู่ที่ระดับ 4 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,180 และ 1,190 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ