กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 11 มีนาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,158.00-1,165.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,230 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,130 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.59 น.ของวันที่ 11/03/15)
แนวโน้มวันที่ 12 มีนาคม 2558
รายงานวิจัยของดอยช์ แบงก์ ประเมินว่าสกุลเงินยูโรจะอ่อนค่าลงแตะระดับ 1 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2015 และอ่อนค่าลงแตะระดับ 90 เซนต์ สหรัฐในปี 2016 โดยในปี 2017 ประเมินว่าอ่อนค่าลงแตะระดับ 85 เซนต์ การคาดการณ์ดังกล่าวความวิตกและสร้างขายกดดันให้ยูโรร่วงต่ำแตะ1.06925 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเดือนเมษายน ปี 2003 ขณะที่การเริ่มดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านถ่วงราคาทองคำให้อ่อนตัวลงตามสกุลเงินยูโรลงที่ร่วงลง ทั้งนี้ การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปีนี้ เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส (นายริชาร์ด ฟิชเชอร์) กล่าวว่า เฟดควรจะยุตินโยบายผ่อนคลายทางการเงินในทันที และควรจะเดินหน้าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยหลังจากนั้นเฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ได้เป็นแรงส่งให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2003 ซึ่งแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี การทะยานขึ้นของดอลลาร์สหรัฐลดความน่าสนใจในการลงทุนทองคำลงเพราะเมื่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นทองคำจะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่นๆที่ไม่ใช่ดอลลาร์ การประชุมพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงินไทย (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาที่ 1.75% เหนือความคาดหมายเพื่อเพิ่มแรงหนุนต่อเศรษฐกิจ หลังการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนรวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐต่ำกว่าคาด ขณะที่บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงทันทีภายหลังปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยการอ่อนค่าของเงินบาทจะเป็นปัจจัยบวกพยุงราคาทองคำภายในประเทศไว้ เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,165-1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,145 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,165 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพราะในช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการทำกำไรให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,145 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,145 (17,800บาท) 1,130 (17,560บาท) 1,112 (17,280บาท)
แนวต้าน 1,165 (18,200บาท) 1,175 (18,260บาท) 1,190 (18,500บาท)
GOLD FUTURES (GFJ15)
แนวรับ 1,145 (18,030บาท) 1,130 (17,790บาท) 1,112 (17,510บาท)
แนวต้าน 1,165 (18,340บาท) 1,175 (18,490บาท) 1,190 (18,730บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148