กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการประชุมพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างฝายร้อยเอ็ด ฝายยโสธร-พนมไพร และฝายธาตุน้อย ภายหลังที่นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการสร้างฝายร้อยเอ็ด ฝายยโสธร-พนมไพร และฝายธาตุน้อย ซึ่งมีราษฎรร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบจำนวน 1,500 ราย ในพื้นที่ 20,000 ไร่ จากการประชุมในวันนี้ ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติโดยให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานและคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วย
1) คณะทำงานแก้ไขปัญหาฯการสร้างฝายร้อยเอ็ด ฝายยโสธร-พนมไพร และฝายธาตุน้อย โดยมี รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายสมปอง อินทร์ทอง) เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และพิจารณาหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐทั้งในส่วนปัญหาเฉพาะหน้า การเยียวยา หลักเกณฑ์ และวิธีการจ่ายเงินชดเชย
2) คณะอนุกรรมการฯ จังหวัดร้อยเอ็ด
และ 3) คณะอนุกรรมการฯ จังหวัดยโสธร เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องพร้อมรายงานผลและความคืบหน้าการดำเนินงานแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะเป็นรายเดือน
นายอำนวย กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ผู้ได้รับผลกระทบไม่ต้องเดินทางมาเข้าร่วมประชุมในส่วนกลาง จึงได้กำหนดกลไกการดำเนินงานโดยให้มีหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่เพื่อเชื่อมโยงการทำงานกับส่วนกลาง โดยให้ตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมีหน่วยงานย่อยที่จังหวัดร้อยเอ็ด และยโสธรด้วย ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหลักเกณฑ์การจ่ายเงินชดเชยที่ถูกต้องและเป็นไปตามระเบียบของทางราชการก่อนที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป