ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. แสนสิริ” ที่ “BBB+” และ “BBB” และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทที่ระดับ “BBB&

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 9, 2015 09:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “BBB” พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “BBB” ด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปจ่ายคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคมและตุลาคม 2558 นี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัท ตลอดจนผลงานที่ได้รับการยอมรับในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แบรนด์ที่มีชื่อเสียงในตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร รวมถึงความหลากหลายของสินค้า อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากการขยายโครงการทั้งที่เป็นของบริษัทเองและจากโครงการร่วมทุน ตลอดจนความกังวลในการยกเลิกการจองจำนวนมากในโครงการคอนโดมิเนียมระดับราคาถูก ทั้งนี้ การประเมินอันดับเครดิตยังคำนึงถึงลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลงและมีการแข่งขันสูง ตลอดจนความกังวลในการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงซึ่งทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงและส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยซบเซา แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถส่งมอบยอดขายที่รอการรับรู้รายได้ได้ตามแผน อีกทั้งจะรักษาอัตรากำไรจากการดำเนินงานเอาไว้ให้ได้ที่ระดับประมาณ 12%-15% ในอีก 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ บริษัทควรรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน (รวมเงินกู้จากกิจการร่วมค้าตามสัดส่วน) ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 65% หรืออัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนที่น้อยกว่า 2 เท่า อันดับเครดิตและหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากสถานะทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมควรอยู่ที่ระดับ 10%-15% และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน (รวมเงินกู้จากกิจการร่วมค้าตามสัดส่วน) อยู่ในระดับต่ำกว่า 60% ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในทางตรงข้าม อันดับเครดิตและหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากสถานะทางการเงินของบริษัทถดถอยลงกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ บริษัทแสนสิริเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ณ เดือนธันวาคม 2557 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 110 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 140,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 55% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด บ้านเดี่ยว 37% และทาวน์เฮ้าส์ 8% ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของที่อยู่อาศัยโดยรวมอยู่ที่ 3.5 ล้านบาท บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอการรับรู้รายได้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557 เท่ากับ 36,000 ล้านบาท และมีจำนวนหน่วยเหลือขายมูลค่าประมาณ 66,000 ล้านบาท ยอดขายของบริษัทในปี 2555-2556 อยู่ที่ประมาณ 42,000 ล้านบาทต่อปี ยอดขายลดลงเหลือ 8,762 ล้านบาทในปี 2557 เนื่องจากบริษัทมียอดยกเลิกการจองเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการคอนโดมิเนียม “ดี คอนโด” และ “เดอะเบส” นอกจากยอดยกเลิกการจองจำนวนมากแล้ว บริษัทยังลดการเปิดโครงการใหม่ในปี 2557 ลงเนื่องจากสาเหตุของความไม่สงบทางการเมืองและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดต่ำลงด้วย ทั้งนี้ ยอดขายคอนโดมิเนียมติดลบ 1,086 ล้านบาทในปี 2557 จากการมียอดยกเลิกที่มากกว่ายอดจอง ในขณะที่ยอดขายจากบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ก็ลดลง 20% และ 40% จากปีที่แล้วตามลำดับ รายได้ของบริษัทในปี 2557 ลดลง 2% จากปีที่แล้วเป็น 28,093 ล้านบาท โดยรายได้จากคอนโดมิเนียมเท่ากับ 14,045 ล้านบาทในปี 2557 ลดลง 7% จากปีที่แล้ว รายได้จากบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 13% จากปีที่แล้ว ในขณะที่รายได้จากทาวน์เฮ้าส์ลดลง 31% ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทในปี 2558 และ 2559 ได้รับแรงหนุนบางส่วนจากยอดขายที่รอการส่งมอบมูลค่า 20,000 ล้านบาทและ 13,000 ล้านบาทตามลำดับ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า รายได้ของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปีหากบริษัทสามารถส่งมอบยอดขายรอการรับรู้รายได้ได้ตามแผน อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ที่ 33%-34% ของรายได้รวมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 20%-24% ของรายได้รวมในช่วงปี 2554-2557 ดังนั้น อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (ซึ่งคำนวณโดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) อยู่ที่ 10%-15% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ในช่วง 3 ปีข้างหน้า อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 12%-15% อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับค่อนข้างสูง การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้อัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 61%-63% ในช่วงปี 2553-2555 เป็น 67% ในปี 2556 และ 69% ณ เดือนกันยายน 2557 อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถเพิ่มทุนได้จำนวนประมาณ 6,000 ล้านบาทในไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 จึงทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงเหลือ 61% ณ สิ้นปี 2557 เนื่องจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก จึงคาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงต่อไป ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้ง อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนในอีก 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโต อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าว (รวมเงินกู้จากกิจการร่วมค้าตามสัดส่วน) ไม่ควรเกินกว่า 65% หรืออัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนควรน้อยกว่า 2 เท่า สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทในช่วงปี 2556-2557 อ่อนแอลงเนื่องจากภาระหนี้ที่สูงขึ้น อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดลงเหลือ 4% ในปี 2556 และ 8% ในปี 2557 จาก 12%-14% ในช่วงปี 2552-2555 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายลดลงเหลือ 2-3 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจาก 4-6 เท่าในช่วงปี 2552-2555 ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2557 สภาพคล่องของบริษัทประกอบด้วยเงินสดมูลค่า 3,000 ล้านบาท รวมทั้งวงเงินกู้ยืมที่ยังไม่ได้เบิกใช้มูลค่า 40,000 ล้านบาท และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่คาดว่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) อันดับเครดิตองค์กร: BBB+ อันดับเครดิตตราสารหนี้: SIRI155A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB SIRI15OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 BBB SIRI167A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB SIRI16OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 BBB SIRI181A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB SIRI185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB SIRI188A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 BBB SIRI194A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 BBB หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2563 BBB แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ