กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--ซีเค คอนเนคชั่น
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า กีฬาขี่ม้าเอ็นดูแรนซ์ในไทยที่หลายคนคิดว่าเข้าถึงยาก และต้องใช้ความอดทนสูง เพราะต้องใช้ระยะเวลาและความใส่ใจในการดูแลรักษาม้าคู่ใจของตัวเองให้ไปสู่ชัยชนะ แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่มีศักยภาพและทุ่มเทเพื่อเดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศเพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ และเพื่อทำให้ธงชาติไทยได้โบกสะบัดให้คนทั่วโลกได้เห็นว่านักกีฬาขี่ม้าไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกนี้
แม้ว่าการคัดเลือกม้า การดูแล รวมไปถึงการเทรนม้า จะมีความยาก ทั้งยังต้องอาศัยทักษะ ความอดทนและพละกำลังของนักขี่เพื่อการแข่งขันรายการต่างๆ ในต่างประเทศ แต่นี่คือการสร้างประวัติศาสตร์ของวงการขี่ม้ามาราธอนของไทยที่ต้องการประกาศศักดาให้คนทั่วโลกได้รู้ว่าเราไม่เป็นสองรองใคร
ล่าสุดในส่วนของการแข่งขันขี่ม้ามาราธอนทางไกล หรือ “เอ็นดูแรนซ์” ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส มีตัวแทน 2 คนจากประเทศไทยไปร่วมเข้าเข่งขัน คือ คุณปั้น-พฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ประธานชมรมขี่ม้าเดอะฮอร์สเซส และ คุณผึ้ง-วิภาวรรณ พาวิทยลาภ เจ้าของแชมป์สุลต่านมิซานคัพถึง 2 สมัย ที่สร้างผลงานโดดเด่นผ่านการคัดเลือกตัวจากการแข่งขันขี่ม้าเอ็นดูแรนซ์ โดยในการแข่งขันที่ดินแดนน้ำหอม ประเทศฝรั่งเศสที่ผ่านมานั้น คุณปั้น-พฤฒิรัตน์ ควบม้าคู่ใจ Ugolin เข้าเส้นชัยในลำดับที่ 7 ในรุ่นระยะทาง 90 กิโลเมตร ทำเวลารวมได้ 4 ชั่วโมง 56.25 นาที ส่วนอันดับ 1 ตกเป็นของนักขี่ม้าจากประเทศฝรั่งเศส ส่วน คุณผึ้ง-วิภาวรรณ แข่งขันในรุ่นระยะทาง 120 กิโลเมตร เข้าเส้นชัยในลำดับที่16 จากนักกีฬา 98 คนทำเวลารวมได้ 6 ชั่วโมง 9.33 นาที
ปั้น-พฤฒิรัตน์ เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลาที่เดินทางไปแข่งขันขี่ม้า ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในเวทีใหญ่ระดับโลกมีการลงทุนค่อนข้างสูงกว่าบ้านเรามาก ทุกอย่างมีระบบแบบแผน และศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด สำหรับเราสองคนไม่เคยรู้สึกย่อท้อกับอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ายังมีข้อผิดพลาดหลายอย่างที่ต้องการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เพราะในสถานการณ์จริงเราต้องปรับเปลี่ยน และมีวิธีคิดแก้ไขให้เหมาะสม ส่วนตัวรู้สึกภูมิใจมากที่คนไทยไปถึงจุดนั้นได้ เพราะในอาเซียนมีแค่เรากับมาเลเซียที่เล่นกีฬาประเภทนี้ เราต้องการทำให้มาตรฐานของวงการขี่ม้าไทยทั่วประเทศได้มีการพัฒนาขึ้นตามลำดับ รวมไปถึงการพัฒนาขีดความสามารถของเราทั้งสองคนด้วย หลังจากที่เราเคยคว้าแชมป์รายการต่างๆ มาแล้ว ทำให้เรามีแนวคิดว่าเราน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและเวทีระดับโลก สำหรับผลการแข่งขันในรายการล่าสุดที่ฝรั่งเศส ถือว่าผลงานที่ออกมาทุกอย่างเป็นที่น่าพอใจ เพราะเราทั้งคู่สามารถผ่านการคัดเลือกตัวได้ตามระยะเวลาที่สหพันธ์ขี่ม้านานาชาติกำหนดไว้ สำหรับเป้าหมายต่อไป คือ การแข่งขันที่มาเลเซียในเดือนสิงหาคมนี้ โดยการแข่งขันในรายการนี้จะมีนักขี่ม้ามาราธอนฝีมือดีจากกลุ่มประเทศอาเซียน เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เราจะพยายามทำคะแนนให้ดีที่สุดให้ได้ ด้วยประสบการณ์ของเราสองคนและม้าที่ต้องปรับสภาพให้เข้ากับภูมิประเทศของที่นั่น จะช่วยนำทางให้เราไปสู่ความสำเร็จที่คาดหวังเอาไว้ได้ เพราะการปรับตัวของคนกับม้าคู่ใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง”