กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--กทม. นพ.สิทธิสัตย์ เจียมวงศ์แพทย์ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม.กล่าวว่า จากการที่กองควบคุมโรค สำนักอนามัยได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ในกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง พบว่าในระยะตั้งแต่เดือนเม.ย. — มิ.ย.48 มีผู้ป่วยโรคดังกล่าวเกิดขึ้น โดยเฉพาะในเด็กนักเรียน และเด็กเล็ก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากโรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส ที่สามารถติดต่อได้ง่าย จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคที่มาจากน้ำมูก น้ำลาย อุจจาระหรือของเหลวจากตุ่มพอง หรือแผลของผู้ป่วย สำหรับอาการของโรคนี้ สังเกตได้จากผู้ป่วยจะมีไข้ 2-4 วัน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคล้ายกับอาการไข้หวัด มีผื่นแดงที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้นด้วย จากนั้นตุ่มแดงจะกลายเป็นตุ่มพองใส และแตกออกเป็นแผลหลุมตื้น ๆ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแทรกซ้อน เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ อัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และอาจทำให้เสียชีวิตได้ อย่างไรก็ดีในประเทศไทยยังไม่พบว่ามีเด็กเสียชีวิต รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวต่อไปว่า โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้นการป้องกันโรคนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด จึงขอให้ ประชาชนดูแลสุขภาพบุตรหลานและเด็ก และช่วยกันปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคมือ เท้า ปาก โดยหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กคลุกคลีหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย ผู้เลี้ยงเด็กโดยเฉพาะควรล้างมือทำความสะอาดมือบ่อย ๆ ก่อนหยิบจับอาหารให้เด็ก และรับประทานอาหารที่สุก สะอาด ปรุงสุกใหม่ ๆ ไม่มีแมลงวันตอม และดื่มน้ำที่สะอาด ไม่ใช้ภาชนะในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะช้อน จาน ชาม แก้วน้ำ ขวดนม เมื่อเช็ดน้ำมูก น้ำลายให้เด็กแล้ว ต้องล้างมือให้สะอาดโดยเร็ว ผ้าอ้อมหรือเสื้อผ้าที่เปื้อนอุจจาระต้องรีบซักให้สะอาด ในห้องเรียนเด็กให้เปิดหน้าต่างเพื่ออากาศถ่ายเท และทำความสะอาดพื้นห้อง โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด--จบ--