กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--MTS Gold Group
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนในกรอบ 1,180-1,200 เหรียญ ตามเนื้อข่าวที่เข้ามา ในช่วงวันหยุดยาวของไทย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ณ ขณะนี้จะเห็นราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงและดีดตัวสูงขึ้นตามสภาพข่าวที่เข้ามาในตลาดแต่ละวัน โดยเฉพาะจากถ้อยแถลงจากประธานเฟดในแต่ละสาขา ในเชิงการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป จึงทำให้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นมาหลังจากร่วงลงไปทำจุดต่ำสุด 1,170 เหรียญ อย่างไรก็ดีค่าเงินบาทเองปรับตัวอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว หลังจากที่กนง. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.50% ต่อปี จึงทำให้โดยภาพรวมค่าเงินบาทอ่อนค่ามาแล้วจากระดับ 32.60 บาท/ดอลลาร์ โดยไปทำจุดอ่อนสุดเมื่อวานนี้ 33.45 บาท/ดอลลาร์ โดยอ่อนค่า 80 สตางค์ ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการอ่อนค่าของเงินบาทอย่างรวดเร็วและรุนแรงที่สุด จึงทำให้ราคาทองคำของไทยเองปรับตัวสูงขึ้นจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างรุนแรง ซึ่งมีผลทำให้ราคาทองคำดีดตัวสูงขึ้นตามไปด้วย สำหรับปัจจัยพื้นฐานของทองคำจะเห็นได้ว่าราคายังคงยึดติดกับสภาวะของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก และมีข่าวเรื่องกรีซมาเป็นข่าวรอง สิ่งสำคัญจะเห็นได้ว่าค่าเงินดอลลาร์ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า ขณะที่ตัวเลขทางภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ISM Non-Manufacturing Index ออกมาดีขึ้นสู่ระดับ 57.8 ด้าน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม หลังจากที่ซื้อเพิ่มในคืนวันศุกร์อีก 2.39 ตัน ทำให้ปัจจุบันยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 741.75 ตัน สำหรับวันนี้จะมีตัวเลขสำคัญได้แก่ ADP Non-Farm Payrolls ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้นเล็กน้อยประมาณ 3,000 ตำแหน่ง ซึ่งก็คงต้องติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนนี้ด้วย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในระยะสั้นจะมีความผันผวน ซึ่งจะเห็นได้ว่าทองคำในหน่วยของค่าเงินดอลลาร์ยังคงผันผวนในกรอบ 1,175-1,205 เหรียญเป็นหลัก แต่มีการแกว่งตัวอย่างมากในรายวัน สลับกันไปตามเนื้อข่าวที่เข้ามา ขณะที่ราคาทองคำในรูปค่าเงินบาทกลับดีดตัวขึ้นในทิศทางขาขึ้น เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเห็นความแตกต่างของหน่วยราคาทองคำ 2 หน่วยอย่างมากในขณะนี้ โดยจะเห็นได้ว่าราคาทองคำในรูปของค่าเงินดอลลาร์ยังอยู่ใกล้เคียงเดิมบริเวณ 1,180-1,200 เหรียญโดยไม่ค่อยเคลื่อนตัวเท่าไหร่ ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องในช่วง 7-8 วัน จึงดึงราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงใช้กลยุทธ์การลงทุนในแนวโน้มขาขึ้นสำหรับราคาทองคำในหน่วยของเงินบาท เนื่องจากค่าเงินบาทเองยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นเมื่อผสมกับราคาทองคำในหน่วยดอลลาร์ที่ทรงตัว จึงทำให้ทองคำไทยปรับตัวขึ้น จึงแนะนำให้เก็งกำไรขาขึ้นเป็นหลักในลักษณะลงซื้อขึ้นขาย อย่างไรก็ดี ภาพของราคาทองคำในหน่วยดอลลาร์ ยังมีแนวโน้มเป็นขาลงในระยะกลางและระยะยาว จึงทำให้เห็นภาพที่แตกต่างกันอย่างมากของราคาทองคำ 2 หน่วยเป็นมาก จากความผันผวนอย่างมากของค่าเงินบาทในทิศทางอ่อนค่า ซึ่งมีผลต่อราคาทองคำสูงมาก เนื่องจากเงินบาทที่อ่อนค่า 1 บาท/บาททองคำ จะส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้นประมาณ 600 บาท/บาททองคำ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรทิศทางขาขึ้นระยะสั้นในกรอบ 1,180-1,200 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรระยะสั้นเป็นช่วงๆ เข้าออกไว
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
บริหารพอร์ตให้สมดุลกับสภาพตลาด เนื่องจากขณะนี้ราคาทองคำในหน่วยของเงินบาทและค่าเงินดอลลาร์ยังคงมีความแตกต่างกันอย่างมาก
Gold Futures M15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,100 บาท
Gold Futures Q15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,200 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: [email protected]
Website: http://www.mtsgold.co.th