กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,184.40-1,190.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM15 อยู่ที่ 19,040 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 90 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,950 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.14 น.ของวันที่ 11/05/15)
แนวโน้มวันที่ 12 พฤษภาคม 2558
รัฐมนตรีคลังยูโรโซนมีการประชุมในวันจันทร์นี้ เพื่อหารือกรณีกรีซที่กำลังถูกกดดันให้ต้องบรรลุข้อตกลงในการดำเนินมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือ ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวกำลังเป็นที่จับตาของนักลงทุนในตลาดทองคำ เพราะหากกรีซเกิดภาวะล้มลายจะเกิดผลกระทบไปยังตลาดเงินตลาดทุน ซึ่งจะทำให้เกิดแรงซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจากความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามหากยังไม่มีความชัดเจนทองคำก็ยังขาดปัจจัยใหม่ที่เข้ามาชี้นำทิศทางราคา ขณะที่นักลงทุนตัดความเป็นไปได้เรื่องการบรรลุข้อตกลงที่จะอนุมัติความช่วยเหลือให้แก่กรีซในการประชุมครั้งนี้ โดยระบุว่ายังคงมีหลายประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกรีซ เปิดเผยว่า รัฐบาลกรีซยังคงหวังว่าการประชุมจะระบุถึงความคืบหน้าและกรุยทางไปสู่การผ่อนคลายภาวะสภาพคล่องตึงตัว แต่ยูโรกรุ๊ปอาจไม่ทำข้อตกลงใดๆเพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซ ขณะที่รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส (นายมิเชล ซาแปง) แสดงความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า โดยระบุว่าอาจจะยังไม่มีการตัดสินใจโดยจำเป็นต้องใช้เวลาอีก 2-3 วันหรือสัปดาห์เพื่อบรรลุข้อตกลง ขณะที่กรีซจะต้องชำระคืนเงิน 750 ล้านยูโรให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในวันอังคาร ซึ่งความกังวลอยู่ว่ากรีซจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนเงินสดและไม่สามารถชำระหนี้ได้เป็นแรงหนุนพยุงราคาทองคำไว้เมื่อราคาอ่อนตัวลง ขณะที่ราคาทองคำรับแรงหนุนเพิ่มจากหลังจากธนาคารกลางจีนได้ลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 เดือนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยทางธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระยะหนึ่งปีลง 0.25% สู่ 5.1% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% สู่ 2.25% โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวไม่ได้สร้างความประหลาดใจและแรงซื้อทองคำมากนัก เนื่องจากมีการคาดการณ์อยู่แล้วว่าผู้กำหนดนโยบายจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,180-1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับสำคัญ 1,165 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,175 (18,710บาท) 1,165 (18,550บาท) 1,153 (18,360บาท)
แนวต้าน 1,193 (19,000บาท) 1,200 (19,110บาท) 1,213 (19,320บาท)
GOLD FUTURES (GFM15)
แนวรับ 1,175 (18,870บาท) 1,165 (18,710บาท) 1,153 (18,520บาท)
แนวต้าน 1,193 (19,160บาท) 1,200 (19,270บาท) 1,213 (19,480บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148