สยามยิปซัมรุกตลาดต่างจัดหวัด พร้อมเพิ่มส่งออก

ข่าวทั่วไป Tuesday March 24, 1998 11:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--24 มี.ค.--ซิเมนต์ไทย
บริษัทสยามอุตสาหกรรมยิปซัม ในเครือซิเมนต์ไทย เปิดแผนรุกตลาดบ้านพักอาศัย ชี้ตลาดแผ่นยิปซัมต่างจังหวัดยังพอไปได้ พร้อมตั้งเป้าผลักดันส่งออกปี 41 มูลค่า 400 ล้านบาท อาศัยโรงงานภาคใต้เป็นจุดแข็งแข่งขันกับต่างประเทศ
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามอุตสาหกรรมยิปซัม ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นยิปซัม โครงคร่าว แผ่นอะคูสติก และปูนฉาบแผ่นยิปซัมในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เครือซิเมนต์ไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดแผ่นยิปซัม ในประเทศว่าความต้องการปีนี้จะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 30 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และคาดว่าการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากกำลังผลิตรวมในปัจจุบันสูงกว่าความต้องการในประเทศกว่าเท่าตัว อย่างไรก็ตามตลาดในต่างจังหวัดยังพอไปได้ซึ่งเป็นผลจากประชาชนในภาคเกษตรกรรมมีรายได้จากการขายผลิตผลดีขึ้น
"บริษัทฯ ต้องใช้นโยบายรุกตลาดบ้านพักอาศัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่างจังหวัด นอกจากการเจาะเข้าตลาดฝ้าเพดานแล้วบริษัทฯ ได้วางตลาดระบบผนังภายในยิปซัม "ควิก วอลล์" (Quik Wall) เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่งระบบผนังภายในยิปซัมเป็นระบบที่ได้รับความนิยมในอเมริกา และยุโรปมานานแล้ว และคาดว่าจะได้รับความนิยมในเมืองไทยเช่นกัน ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นเหนือกว่าการก่ออิฐฉาบปูน และวัสดุทำผนังประเภทอื่น คือ ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน และสวยงาม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดอบรมการติดตั้งฝาและฝ้ายิปซัมแก่ช่างทั่วประเทศ เพื่อให้การใช้แผ่นยิปซัมเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น นายขจรเดช กล่าว
นายขจรเดชกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตแผ่นยิปซัมเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมฉลุง สงขลา กำลังผลิตปีละ 20 ล้านตารางเมตร เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดภาคใต้ และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันด้านการส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียง โดยมีแผนส่งออกในปีนี้เพิ่มขึ้น เป็น 400 ล้านบาท ประเทศส่งออกหลัก ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ ประเทศจีนตอนใต้ และอินโดจีน รวมทั้งส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ อาทิ ประเทศในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยร่วมทุนกับ Tianjin building Materials General Group Corporation ก่อตั้งโรงงานผลิตแผ่นยิปซัมในประเทศจีน และร่วมทุนกับวิงส์ กรุ๊ป ตั้งโรงงานผลิตแผ่นยิปซัมในอินโดนีเซีย โรงงานในทั้งสองประเทศจะเริ่มผลิตในเดือนมีนาคม และเมษายนนี้ตามลำดับ ด้วยกำลังผลิตแต่ละโรงงานปีละ 20 ล้านตารางเมตร เพื่อจำหน่ายในพื้นที่และส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียง
"สำหรับผลการดำเนินงานปี 2540 บริษัทฯ มียอดขายรวมประมาณ 1,300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยส่งออกคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2539 ร้อยละ 30" นายขจรเดชกล่าวในตอนท้าย--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ