กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,211.93-1,222.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM15 อยู่ที่ 19,460 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,410 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.10 น.ของวันที่ 15/05/15)
แนวโน้มวันที่ 18 พฤษภาคม 2558
ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทั่วไปร่วงลง 0.4 % เมื่อต้นทุนอาหารและผลิตภัณฑ์พลังงานดิ่งลง ทางด้านดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานร่วงลง 0.2 % ในเดือนเมษายน ตัวเลขนี้สะท้อนถึงทิศทางเงินเฟ้อที่แย่กว่าคาดของสหรัฐได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของสหรัฐ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกที่น่าผิดหวังในเดือนเมษายนไปในช่วงก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยตัวเลขนี้สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเลื่อนเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป และสนับสนุนประธานเฟดสาขาต่างๆที่มีแนวโน้มแบบสายพิราบหรือมีแนวโน้มที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไป ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือน ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3 เดือน หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ขณะที่แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของกรีซ(นายยานิส วารูฟากิส) แสดงความต้องการให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยืดระยะเวลาชำระหนี้มูลค่า 27,000 ล้านยูโรออกไปเนื่องจากกรีซยังไม่สามารถชำระหนี้ดังกล่าวตามกำหนดได้ประกอกกับกรีซมีกำหนดชำระหนี้พันธบัตรให้อีซีบีในเดือนกรกฎาคมและสิงหามคม โดยกรีซจำเป็นที่ต้องได้รับการอนุมัติเงินช่วยเหลือเพื่อให้ลอดพ้นจากภาวะล้มละลายหลังจากเศรษฐกิจของกรีซหดตัวสองไตรมาสติดต่อกันจนเข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มตัว ทั้งนี้ การเจรจาหนี้ของกรีซยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไป เบื้องต้นยังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,228-1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมาเพื่อสะสมกำลังอีกครั้งโดยนักลงทุนอาจรอซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยเสี่ยงซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ในระยะสั้นราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในกรอบหากราคาสามารถการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้เกิดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,228 หรือ 1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนหากราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,200 (19,040บาท) 1,190 (18,880บาท) 1,180 (18,720บาท)
แนวต้าน 1,228 (19,490บาท) 1,234 (19,580บาท) 1,242 (19,710บาท)
GOLD FUTURES (GFM15)
แนวรับ 1,200 (19,260บาท) 1,190 (19,100บาท) 1,180 (18,940บาท)
แนวต้าน 1,228 (19,710บาท) 1,234 (19,800บาท) 1,242 (19,930บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148