กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--สำนักงาน ป.ป.ช.
รายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหานายสมศักดิ์ ตาไชย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา กับพวกว่า อนุมัติให้นำเงิน ของกองทุนสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน ๒,๑๐๐ ล้านบาท และ ๔๐๐ ล้านบาท โดยไม่ชอบ
ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงถึงผลการพิจารณา กรณีกล่าวหานายสมศักดิ์ ตาไชย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา กับพวกว่า อนุมัติให้นำเงินของกองทุนสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาไปซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน ๒,๑๐๐ ล้านบาท และ ๔๐๐ ล้านบาท โดยไม่ชอบ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติเงินกองทุนสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. นั้น ได้มีมติอนุมัติให้ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน ๒,๑๐๐ ล้านบาท จากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยไม่ชอบ เนื่องจากภายหลังมีมติอนุมัติให้ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวนดังกล่าว ก็ได้มีการโอนเงินไปยังบัญชีของบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ไปก่อนที่จะมีการตรวจสอบการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งการซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินว่าได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วหรือไม่ อันเป็นการดำเนินการในลักษณะที่เร่งรีบดำเนินการจนผิดปกติ ซึ่งในเวลาต่อมาก็ปรากฏว่าไม่ได้มีการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน ๒,๑๐๐ ล้านบาทแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในเวลาต่อมา คณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ยังได้มีมติอนุมติให้ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน ๔๐๐ ล้านบาท จากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด เพิ่มเติม ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าการดำเนินการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน ๒,๑๐๐ ล้านบาทดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ การดำเนินการดังกล่าวของคณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. จึงเป็นการดำเนินการโดยอาศัยการที่ตนมีอำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด อันเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเห็นควรให้แต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามกรณีกล่าวหาต่อไป โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุไต่สวน นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. นางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านกำกับดูแลสถาบันการเงิน เป็นอนุกรรมการไต่สวน