ทีวีไกด์รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” เจาะลึกนาทีตัดผมพ่อครั้งสุดท้าย “เกริก ชิลเลอร์” กับการสูญเสียที่ไม่มีวันได้กลับคืนมา

ข่าวบันเทิง Monday May 18, 2015 14:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--อาร์เอส ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับ “คุณเกริก ชิลเลอร์” อีกครั้งที่ได้สูญเสียคนสำคัญครั้งยิ่งใหญ่ ตามที่เราได้เห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ เจ้าตัวได้มีโอกาสตัดผมให้คุณพ่อเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทาง “ช่อง 2” ขอเจาะลึกแท้จริงเกริกไม่ได้เจอหน้าคุณพ่อมาร่วม 5 ปี เหตุเพราะคุณพ่อมีภรรยา 4 คน และมีลูกๆ รวม 7 คน และนาทีหัวใจสลายตัดผมให้พ่อก่อนเริ่มพิธีศพ ขอแสดงความเสียใจเรื่องคุณพ่ออีกครั้ง คุณพ่อเพิ่งจะเสียไป ? “ขอบคุณครับ จริงๆ คุณพ่อป่วยมาได้ 10 ปีแล้วครับ น้ำในสมองเยอะ คุณหมอต้องคอยเจาะน้ำในสมองออกอยู่ตลอด ก็แก่ลงทุกวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่งอยู่ๆ ก็หัวใจล้มเหลว ล้มลงในห้องน้ำ พอดีว่าพี่สาวที่เป็นฝรั่งอยู่ด้วยก็เลยโทรหาผมเลย แล้วท่านก็เสียชีวิตในห้องน้ำนั้น” ท่านอายุเท่าไหร่ ? “74 ครับ ก็ยังไม่เยอะมากแต่ว่า คุณพ่อผมใช้ชีวิตค่อนข้างคุ้มมาก ท่านก็เป็นนักผจญภัยตั้งแต่เด็ก” ได้ยินว่าทานอยู่เมืองไทย แต่ทำไมท่านเสียที่สหรัฐ ? “คุณพ่อเป็นอเมริกันนะครับ เป็นทหารอเมริกันมารบในสงครามเวียดนาม เป็นทหารอยู่ 13 ปี หลังจากสงครามเวียดนามเสร็จก็มีโอกาสได้เข้ามาเมืองไทยแล้วก็ชอบ ตกหลุมรักเมืองไทย แล้วก็ตกหลุมรักแม่ผม(หัวเราะ) ก็เลยอยู่ยาว” มีลูกกับคุณแม่คุณกี่คน ? “ 1 คน ก็คือผม คุณพ่อมีภรรยา 4 คน ผมเป็นลูกของภรรยาคนที่ 2 แล้วก็มีน้องๆ อีก 3 คน” ครอบครัวซิลเลอร์จากคุณพ่อเดียวกันมีทั้งหมดกี่คน ? “ 7 คน(ยิ้ม)” มีโอกาสได้ตัดผมให้กับคุณพ่อ ? “เมื่อทราบข่าวว่าคุณพ่อเสีย ผมก็ซื้อตั๋วเครื่องบินไปวันรุ่งขึ้นเลย ก็ไปประชุมกันเรื่องงานศพว่าจะต้องยังไง ใช้แพลงอะไร คุณพ่อแต่งตัวชุดทหารได้ชุดหรือยัง แล้วก็พิธีจากทหารจะต้องทำอะไร เมื่อประชุมอย่างนั้นเสร็จก็มีเจ้าหน้าที่ของทางที่จัดงานศพเดินมาบอกว่าไม่ทราบว่าอยากให้คุณพ่อทำผมทรงอะไร เพราะว่าพรุ่งนี้จะมีช่างตัดผมมาตัดผมให้ ผมนั่งอยู่(ทำท่าลุกขึ้น) ไปเอาช่างผมมาทำไม กูนี่แหละช่างผม ผมก็เลยบอกว่าผมจะขออาสาตัดผมให้พ่อผม” เราเห็นภาพจากในข่าวมาบ้าง แต่อยากทราบรายละเอียด ? “คุณพ่อเหมือนคนนอนหลับครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวต้องเข้าไปตัดผมให้พ่อ”ฃ สถานที่ตรงนั้นคือโรงพยาบาล ? “มันไม่ใช่โรงพยาบาลนะครับ เป็นสถานที่เก็บศพ ห้องเย็นด้วยแล้วทางด้านหน้าก็จะเป็นห้องเหมือนห้องทำพิธี กล่าวไว้อาลัย” แล้วยังไงต่อ เรื่องของการตัดผมให้คุณพ่อ ? “เขาก็เอาคุณพ่ออกมา ผมก็ซื้อกรรไกรแถวๆ นั้น เท่าที่หาซื้อได้เพราะมันเป็นเมืองเล็กๆ ก็ตัดไปแบบที่เราเคยเห็นคนพ่อไว้(ไว้ทรงผม)” รู้สึกยังไง ? “ผมเตรียมใจไว้ก่อนแล้วว่าคุณพ่อเสียแล้ว แล้วก็ต้องเจอคุณพ่อในสภาพศพ อย่างน้อยๆ ผมก็สบายใจมาอยู่หลายๆ เรื่องแล้ว เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้วผมได้เจอกับคุณพ่อแล้วก็มีเวลาได้อยู่ด้วยกันเยอะ เราได้มีโอกาสพูดคุยกันเยอะ แล้วได้ปรับความเข้าใจในสิ่งที่ไม่ค่อยจะเข้าใจกันมันสบายใจ คราวนี้เลยไปหาพ่อในแบบที่มันสบายใจ ถึงแม้คุณพ่อจะไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้ แต่เราก็สนิทใจกับพ่อเรา” เราไม่รู้เหรอว่าพ่อป่วย ? “ผมรู้ครับว่าพ่อป่วย” คิดจะไปเยี่ยมเขาไหม ? “ผมเคยคิดจะไปเยี่ยม แต่เนื่องด้วยหน้าที่ เนื่องด้วยงานมันเยอะมาก ไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้าไปหาท่านสักเท่าไหร่ ผมแพลนกับครอบครัวไว้ว่าช่วงปลายปีนี้เราจะพาครอบครัวไป แล้วก็ไปเยี่ยมครอบครัวที่โน้นแล้วก็ไม่ได้ไป” ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นคุณพ่อ ก่อนท่านเสีย นานแค่ไหน ? “ประมาณ 5-6 ปีครับ ตั้ง 5 ปี (ยิ้มแต่ตาเศร้า)” ต้องหวีผม ตัดผมให้ท่านคิดถึงเรื่องเก่าไหม ? “มีบ้างครับ ถึงแม้ผมจะไม่ได้อยู่กับพ่อผมตลอดเวลา แต่ว่าลูกๆ ทุกคนก็จะเป็นแบบนี้หมดจะไม่ได้อยู่กับคุณพ่อตลอดเวลา จะน้องคน 2 คนที่เกิดจากคุณแม่คุณที่ 4 ที่มีโอกาสได้อยู่กับท่าน แต่ทำไมไม่รู้ด้วยความรู้สึกที่เป็นพ่อลูกกันทั้งครับมันใกล้กันมากเหลือเกิน” คุณเหมือนพ่อมากที่สุด ? “(พยักหน้า)เหมือนพ่อมากที่สุด มีความรู้สึกผูกพันครับ เพราะตอนเด็กๆ คุณพ่อจะไปๆ มาๆ แว้บๆ อยู่ๆ ก็โผล่มา อยู่ๆ ก็หายไปมันเลยทำให้เราสงสัยว่าทำไมพ่อไม่อยู่กับเรา แล้วเราก็ไม่เข้าใจ อาจจะเป็นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน” แล้วคุณแม่อธิบายไหม ? “แม่ก็อธิบายใจมุมของแม่ซึ่งเป็นมุมที่ไม่ได้ทำหนิคุณพ่อ” คำว่าสามีภรรยามันมีอะไรมากมาย ? “ผมมาเข้าใจคำนี้เมื่อวันหนึ่งเราได้โตขึ้นมา แล้วเราได้มีครอบครัว มีแฟน มีการพุคุย มีการสนทนากันบางทีมันไม่ได้ถูกใจกันซะทุกเรื่อง” ตอนตัดผมจะหวีผม น้ำตาหยุดใส่คุณพ่อไหม ? “ในระหว่างหวีผม ผมทำใจมาก่อนแล้ว ผมลากน้องสาวเข้าไปด้วย น้องสาวคนที่ไม่ได้อยู่กับพ่อเลย ลากเขไปอยู่ด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อความสบายใจของเขาในบางมุม ผมก็พยายามแสดงความเป็นพี่ พี่ไม่ได้กลัวไม่ได้คิดอะไร ก็ตัดๆ ตัดผมไป” จริงๆ ตอนนั้นรู้สึกอะไร กลัวเหรอ ? “ผมไม่ได้กลัวพ่อผม ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรเลยแค่รู้สึกว่าพ่อผมชอบตัดผมทรงสั้นๆ อย่างนี้ ด้วยความที่เขานอนมันตัดไม่ถนัด มันตัดได้ออกมาไม่ดีแน่ๆ เราก็คิดไว้ในใจว่าแดดดี้ขอให้ตัดออกมาได้สวยถูกใจนะ พอตัดเสร็จพอผมมาดูหน้า ผมร้องไห้ซะไม่ดีดี(ยิ้มแต่น้ำตาไหล) เพราะว่าพ่อหล่อ(ร้องไห้จนพูดไม่ออก)” บทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์เวลา 10.30/14.00/20.00น. เสาร์-อาทิตย์10.30/14.30/19.30 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ