แพทย์และผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรชื่อดัง แนะโรคสมองเสื่อมอันตรายกว่าที่คิด

ข่าวทั่วไป Wednesday June 3, 2015 11:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--บ้านพีอาร์ เมื่ออายุมากขึ้นหลายสิ่งหลายอย่างย่อมเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเรื่องความทรงจำ บางครั้งกิจวัตรประจำวันที่เคยทำทุกวัน อาจจำไม่ได้ว่าทำหรือยัง ทั้งๆที่ทำไปแล้ว ซึ่งในผู้ที่มีอาการสมองเสื่อมตามวัย อาจมีความผิดปกติเช่นหลงลืมบ้างนิดหน่อย แต่จะไม่ค่อยมีอารมณ์หรือพฤติกรรมแปลกๆ แต่หากผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม จะมีการอาการผิดปกติอย่างเห็นได้ชัดเจนมากกว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนใกล้ชิดเราเป็นโรคสมองเสื่อมหรือโรคขี้ลืม ตามมาฟังจากปากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกันเลย นายแพทย์ ธเนศ อมรพิทักษ์กูล ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรชื่อดัง แพทย์ผู้ก่อตั้ง Herb Plus Clinic เผยว่า โรคสมองเสื่อมเกิดจากสาเหตุเลือดเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เซลล์สมองตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ความเสื่อมถอยจะดำเนินอย่างช้า ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป บางครั้งอาจใช้เวลานับ 10 ปี กว่าที่ความผิดปกติจะปรากฏชัดเจนจนสังเกตได้ และจากการที่เซลล์สมองค่อยๆ เสื่อมลงนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องความจำ ความฉลาด และความสามารถในการตัดสินใจที่แย่ลง และ เมื่ออายุมากขึ้น จะทำให้ความสามารถของบุคคลลดลงไปด้วย เช่น ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ มีพฤติกรรมแปลกๆ บุคลิกภาพเปลี่ยนไป มีความผิดปกติในการทำความเข้าใจ การเสื่อมของสมองนี้จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งในที่สุดจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาจจะจำเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้หรือจำได้แค่บางส่วน ขี้ลืม และอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร ฟังเรื่องต่างๆแล้วเข้าใจน้อยลง ความสามารถในการคิดหรือตัดสินใจแย่ลง และหากปล่อยทิ้งให้เกิดอาการเหล่านี้ไว้นาน ผู้ป่วยจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น ในเรื่องของการขับถ่าย การกินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน ต้องมีคนช่วยดูแลตลอด ทำให้ร่างกายผู้ป่วยแย่ลงไปเรื่อยๆ และเป็นภาระต่อตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์และตัดสินใจเรื่องต่างๆทำให้มีพฤติกรรมคล้ายกับเด็ก ส่งผลให้คู่ชีวิต ลูกหลานที่ดูแลเกิดความเครียดในครอบครัวตามมา ซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการตามที่กล่าวมาแล้วมักเสียชีวิตภายใน 5-10 ปี และปัญหาของโรคนี้คือ กว่าจะสังเกตอาการชัดเจน โรคก็ลามเข้าไป 80-90% แล้วทำให้รักษาได้ยากและมีโอกาสเสียชีวิตสูง สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักดังนี้ คือ 1.กลุ่มวัยกลางคน ช่วงอายุ 30-60 ปี โดยเฉพาะคนที่ทำงานหนัก ใช้สมองมาก พักผ่อนน้อย มีโอกาสป่วยด้วยโรคนี้ตั้งแต่อายุน้อยๆ และ 2.กลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากผ่านการใช้สมองมายาวนานโดยไม่มีการดูแลอย่างถูกต้อง สมองจึงเสื่อมสภาพจนป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และโรคสมองเสื่อม โดยนพ.ธเนศ แนะนำว่า ปัจจุบันนี้ยังไม่มียาแผนปัจจุบันรักษาได้ เป็นเพียงแค่รักษาตามอาการ และยังไม่มียาตัวไหนช่วยบำรุงสมองให้แข็งแรงด้วยเช่นกัน ซึ่งในท้องตลาดตอนนี้ จะมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไปเพื่อบำรุงความจำ คือ Fish Oil, สารสกัดจากแป๊ะก๋วย และซุปไก่สกัด แต่ทั้งหมดจะได้สารอาหารบำรุงสมองไม่ครบถ้วน ทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาสู้การใช้สมุนไพรหลายตัวรวมกันไม่ได้ ซึ่งการใช้สมุนไพรบำรุงสมองจึงได้ผลดีกว่าการใช้ยาแผนปัจจุบันในระยะยาว และหากใช้ตำรับสมุนไพรบำรุงสมองแล้ว จะช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองเต็มที่ ทำให้เซลล์ประสาทแข็งแรงทำงานเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันภาวะสมองเสื่อม ควรจะดูแลพฤติกรรมของตนเองด้วย เช่น การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ห้ามนอนดึก โดยต้องนอนก่อน 5 ทุ่มและนอนให้ครบ 8 ชม หลีกเลี่ยงอาหารมันและหวาน ที่จะทำให้เกิดโรคไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิต และควรทานสมุนไพรบำรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อบำรุงสมองให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา และอย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วค่อยคิดจะมาทานสมุนไพร เพราะอาจสายเกินกว่าจะแก้ไขได้ และหมั่นไปตรวจสุขภาพ ออกกำลังกายและกำลังสมองเป็นประจำ เช่นการเล่นหมากรุก หมากฮอส เกมโกะ อักษรไขว้ สิ่งเหล่านี้เองจะช่วยให้สมองแข็งแรงอยู่กับคุณไปนานๆ นพ.ธเนศ กล่าวสรุป
แท็ก สมอง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ