ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร &หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน “บ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น” เป็น “AA+” จาก “AA” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 8, 2015 09:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “AA+” จาก “AA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาสถานะทางการแข่งขันที่เข้มแข็งพร้อมทั้งคงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องด้วยการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง อันดับเครดิตยังได้รับแรงหนุนจากความช่วยเหลือและการสนับสนุนจาก Telenor ASA (Telenor) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมจากประเทศนอร์เวย์ด้วย โดย ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2558 Telenor ถือหุ้นในสัดส่วน 42.6% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าบริษัทจะยังคงได้รับประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนส่วนแบ่งรายได้อย่างต่อเนื่องและบริษัทจะสามารถประมูลใบอนุญาตสำหรับคลื่นความถี่ใหม่โดยยังคงความแข็งแกร่งทางด้านการเงินเอาไว้ได้ ในการพิจารณาอันดับเครดิต ทริสเรทติ้งยังคำนึงถึงตราสินค้าที่มีชื่อเสียงและโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ครอบคลุม ตลอดจนแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่กฎระเบียบส่งผลในทางบวกต่ออุตสาหกรรมด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวมีข้อจำกัดบางประการจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมสื่อสารแบบไร้สายและความจำเป็นในการลงทุนขนาดใหญ่สำหรับการขยายโครงข่ายทั่วประเทศ แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงความสามารถในการแข่งขันและการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังให้บริษัทปรับปรุงคุณภาพโครงข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตราสินค้าด้วย อันดับเครดิตอาจได้รับแรงกดดันให้ต้องปรับลดลงหากอัตราส่วนหนี้สินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัทสูงเกิน 1.5 เท่าเป็นระยะเวลานาน หรือหากการทำกำไรของบริษัทแย่ลงเป็นระยะเวลานานอันเป็นผลจากการแข่งขันที่รุนแรง สถานะทางธุรกิจที่แข็งแรงมากของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทที่แข็งแกร่งโดยเป็นผู้ประกอบธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 31% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดและ 29% ของรายได้จากการให้บริการทั้งหมด บริษัทมีลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 27.9 ล้านราย ณ สิ้นปี 2556 เป็น 28.4 ล้านราย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 และมีรายได้รวม 90,415 ล้านบาทในปี 2557 ซึ่งลดลง 4.4% จากปีก่อน เนื่องจากรายได้จากการให้บริการเสียงลดลง สำหรับช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทสร้างรายได้ 22,884 ล้านบาท เติบโต 2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งยังคงได้รับแรงหนุนจากตราสินค้าที่มีชื่อเสียง คือ ตราสินค้า "ดีแทค" และ "แฮปปี้" บริษัทเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านโครงข่ายโทรศัพท์ 3จี (3G) บนคลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ทซ์ (Megahertz -- MHz) ในเดือนกรกฎาคม 2556 และให้บริการ 4จี (4G) มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 บริษัทมีลูกค้า 23.5 ล้านรายบนโครงข่าย 3จีและ 4จี LTE (Long-term Evolution -- LTE) หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดที่ประมาณ 28% ของจำนวนลูกค้าใน 2 กลุ่มนี้ บริษัทมุ่งเน้นการขยายโครงข่าย 4จี เพิ่มเติมเพื่อรองรับการเติบโตของบริการทางด้านข้อมูล และเพื่อเสริมสร้างสถานะทางการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง รายได้จากอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยที่ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม (Interconnection Charge -- IC) เติบโต 1% ในปี 2557 และเติบโต 3%ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รายได้การให้บริการทางด้านข้อมูลยังคงเติบโตอย่างมากและอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 โดยมีอัตราการเติบโต 27%-29% ในช่วงปี 2557 จนถึงไตรมาสแรกของปี 2558 ในทางกลับกัน รายได้จากการให้บริการเสียงลดลง 11%-14% ในช่วงเวลาเดียวกัน คาดว่ารายได้รวมของทั้งอุตสาหกรรมจะเติบโตในระดับปานกลางในปี 2558 เนื่องจากอุปสงค์ในบริการด้านข้อมูลยังคงแข็งแกร่ง การประมูลใบอนุญาต LTE น่าจะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2558 ซึ่งจะกระตุ้นการลงทุนในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยังคงดีแม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างทำการพัฒนาโครงข่าย 4จี เพิ่มขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการและทำการตลาดกระตุ้นการใช้บริการด้านข้อมูล ลูกค้ามีการใช้การคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Number Portability -- MNP) กันอย่างกว้างขวาง และราคาเครื่องโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนก็ลดต่ำลงด้วยเช่นกัน บริษัทมีรายได้จากการให้บริการซึ่งไม่รวมค่า IC จำนวน 68,275 ล้านบาทในปี 2557 และ 16,768 ล้านบาทในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558 ในช่วงปี 2558-2560 สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการให้บริการของบริษัทจะเติบโตโดยเฉลี่ย 5% ต่อปี โดยการเติบโตที่แข็งแกร่งในบริการด้านข้อมูลจะชดเชยการลดลงของรายได้จากบริการด้านเสียง บริษัทมีอัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) อยู่ที่ 34.1% ในปี 2557 และ 32.2% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558 เปรียบเทียบกับ 31.3% ในปี 2556 การที่อัตราส่วนกำไรยังเพิ่มขึ้นไม่มากนั้นเป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรงและการให้ส่วนลดค่าเครื่องโทรศัพท์ บริษัทยังคงแบกรับต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ที่เกิดบนโครงข่าย 2จี ภายใต้ระบบสัมปทาน และบนโครงข่าย 3 จี ภายใต้ใบอนุญาตด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทยังสามารถใช้คลื่นความถี่ภายใต้ระบบสัมปทานได้จนถึงปี 2561 อัตราส่วนต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ต่อรายได้จากการให้บริการโดยไม่รวม IC ของบริษัทลดลงจาก 31% ในปี 2556 มาอยู่ที่ 23% ในปี 2557 และ 18% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558 ในช่วงปี 2558-2560 สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรของบริษัทจะค่อยๆ ดีขึ้นเป็น 35%-40% อัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้นสะท้อนความคาดหวังในการประหยัดต้นทุนส่วนแบ่งรายได้จากฐานลูกค้าบนโครงข่ายโทรศัพท์ 3จี ที่เพิ่มขึ้นถึงแม้การประหยัดต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ที่ได้บางส่วนจะถูกทดแทนด้วยค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้นก็ตาม ตั้งแต่ปี 2555 บริษัทคงสัดส่วนหนี้อยู่ที่ระดับกว่า 30,000 ล้านบาทและคงระดับอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ระดับประมาณ 50% บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ระดับ 26,328 ล้านบาทในปี 2557 เพิ่มขึ้นจาก 21,875 ล้านบาทในปี 2555 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นจาก 72% ในปี 2555 มาอยู่ที่ระดับประมาณ 80% ในช่วงปี 2556 จนถึงไตรมาสแรกของปี 2558 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนในช่วงปี 2558-2560 โดยรวมอยู่ที่ประมาณ 55,000 ล้านบาท บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อย 80% ของกำไรสุทธิ ทริสเรทติ้งคาดว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทจะยังคงเติบโตต่อเนื่องโดยอยู่ในช่วงประมาณ 28,000-35,000 ล้านบาทต่อปี อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนจะคงอยู่ที่ระดับประมาณ 50% สำหรับใบอนุญาตบนคลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz นั้น ทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทจะสามารถรองรับการลงทุนนี้ได้หากต้นทุนใบอนุญาตและรูปแบบการชำระค่าใบอนุญาตใกล้เคียงกับการประมูลครั้งก่อน อีกทั้งความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างบริษัทกับสถาบันการเงินต่าง ๆ จะเสริมสร้างสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอที่จะรองรับความต้องการเงินทุนในอนาคตได้ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) อันดับเครดิตองค์กร: AA+ อันดับเครดิตตราสารหนี้: DTAC167A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 AA+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ