กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
ฟอร์ดเดินหน้าเปลี่ยนวิธีการดูแลรักษาโลกไปอีกขั้น โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมการสัญจรแนวทางหลัก พร้อมตอกย้ำความสำเร็จด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมขององค์กรในรายงานผลการพัฒนาความยั่งยืนประจำปีที่ 16
รายงานดังกล่าวได้เน้นถึงความสำเร็จของฟอร์ดในเรื่องการช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอยทั่วโลก โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ฟอร์ดรายงานว่า โรงงานประกอบรถยนต์ฟอร์ดที่เมืองเฮอร์โมซิลโล ประเทศเม็กซิโก สามารถบรรลุเป้าหมายในการปลอดการฝังกลบขยะ ความสำเร็จดังกล่าวช่วยให้โรงงานประกอบรถยนต์ฟอร์ดแห่งนี้เป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวในประเทศเม็กซิโกที่ปลอดการฝังกลบขยะ และด้วยเหตุนี้ โรงงานประกอบรถยนต์ฟอร์ดในประเทศเม็กซิโกนี้ จะช่วยลดปริมาณการฝังกลบขยะ ได้ถึง 1.5 ล้านปอนด์ในปีนี้และปีต่อๆ ไป โดยคำนวณจากอัตราการเกิดขยะมูลฝอยในปี2557
ความสำเร็จของโรงงานประกอบรถยนต์ฟอร์ดที่เมืองเฮอร์โมซิลโล รวมถึงที่เมืองเกวาติตลันและเมืองชิวาวาในประเทศเม็กซิโกจะช่วยผลักดันให้ฟอร์ดสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณการฝังกลบขยะทั่วโลกลงได้ถึง 40เปอร์เซ็นต์ต่อจำนวนรถยนต์ที่ผลิตขึ้นระหว่างปี 2554 จนถึงปี 2559 และตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปี 2554 ที่ผ่านมา ฟอร์ดได้ลดปริมาณขยะที่เกิดจากกระบวนการผลิตรถยนต์ต่อคันทั่วโลกแล้วคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์
การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
รายงานผลการพัฒนาความยั่งยืนประจำปีของฟอร์ดยังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นขององค์กรที่จะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกให้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ต่อจำนวนรถที่ผลิตขึ้นให้สำเร็จภายในปี 2568
นอกจากนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟอร์ดยังช่วยลดปริมาณการใช้น้ำทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อปี 2557ฟอร์ดรายงานว่า ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ฟอร์ดได้ลดประมาณการใช้น้ำต่อรถหนึ่งคันได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์จากทั่วโลก ทำให้ฟอร์ดสามารถบรรลุเป้าหมายได้เร็วกว่ากำหนดถึงสองปี
และตั้งแต่ปี 2554 ถึงปี 2559 ฟอร์ดมีอัตราการใช้พลังงานโดยเฉลี่ยต่อรถหนึ่งคันลดลง 25 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก และที่สำคัญ นับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ฟอร์ดได้ลงทุนกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ดทั่วโลกให้มีประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานที่ดีขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ ฟอร์ดยังส่งเสริมการใช้วัสดุในกระบวนการการผลิตที่ยั่งยืน โดยได้นำไฟเบอร์ตระกูล REPREVE มาประยุกต์ใช้ในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อการรีไซเคิลขยะที่เกิดจากขวดพลาสติกจำนวนกว่า 5 ล้านขวดมาประกอบกับรถกระบะ ใหม่ รุ่นเอฟ -150 ปี 2558 โดยรถกระบะรุ่น เอฟ – 150 นับเป็นรถยนต์คันที่ 5 ของโลกที่มีการนำไฟเบอร์ตระกูล REPREVE มาปรับใช้ ฟอร์ดได้ริเริ่มการรีไซเคิลไฟเบอร์ REPREVE มาตั้งแต่ปี 2555 และเป็นบริษัทรถยนต์เพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงใช้ไฟเบอร์ตระกูลนี้
ให้ความสำคัญกับแนวโน้มกระแสหลัก
ฟอร์ดให้ความสำคัญและติดตามทุกแนวโน้มที่เกิดขึ้น โดยการเฝ้าดูสิ่งต่างๆ รอบตัว และเตรียมรับกับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ฟอร์ดได้วางแผนงานต่างๆ ในอนาคตโดยอ้างอิงจากกระแสหลักดังต่อไปนี้
การขยายตัวและความแออัดของชุมชนเมืองการขยายตัวของชนชั้นกลางการให้ความสนใจด้านสุขภาพและคุณภาพอากาศการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิดและการจัดลำดับความสำคัญของผู้คนที่เกิดในยุคมิลเลเนียล (Millennials)จำนวนทรัพยากรที่มีจำกัด
ในปีนี้ฟอร์ดได้ประกาศแผนการสัญจรอัจฉริยะเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้ โดยแผนดังกล่าวครอบคลุมการทดลองจากทั่วโลก เพื่อการออกแบบรถยนต์ฟอร์ดที่พัฒนาขึ้นไปอีกระดับ ทั้งในด้านการเชื่อมต่อการสื่อสาร การสัญจร นวัตกรรมยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ การสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจของลูกค้าและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (big data)
"วิสัยทัศน์ของฟอร์ดยังคงเน้นที่ความมุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทางของผู้คนทั่วโลกเช่นเคย" มร.เคน วอชิงตัน รองประธานกรรมการฟอร์ด ฝ่ายการวิจัยและวิศวกรรมขั้นสูงกล่าว "นี่คือสิ่งที่มร. เฮนรี่ ฟอร์ดริเริ่มเมื่อศตวรรษที่แล้วเพื่อสร้างสรรค์โลกให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น และเรายังคงสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านจนถึงทุกวันนี้"