โพลล์เผยเด็กแว้นมาจากครอบครัวขาดความอบอุ่น

ข่าวทั่วไป Friday June 26, 2015 16:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อปัญหากลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่ง (กลุ่มเด็กแว้น) บนถนนสาธารณะ โดยได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 19 ถึง 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,175 คนสามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 50.81 ขณะที่ร้อยละ 49.19 เป็นเพศชาย ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 25 ถึง 34 ปีคิดเป็นร้อยละ 30.81 กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 33.87 จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นลูกจ้าง/พนักงานในห้างร้านหรือบริษัทเอกชน ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจและนักเรียน/นักศึกษาคิดเป็นร้อยละ 30.55 ร้อยละ 24.09 และร้อยละ 20.43 ตามลำดับ ในด้านความรับรู้และพฤติกรรมการขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะ กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 51.49 ระบุว่าตนเองเคยพบเห็นกลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่ง "กลุ่มเด็กแว้น" บนถนนสาธารณะบ้างเป็นบางครั้ง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 37.79 ระบุว่าเคยพบเห็นเป็นประจำ ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 10.72 ระบุว่าไม่เคยพบเห็นเลย ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 80.51 ระบุว่าตนเองไม่เคยมีพฤติกรรมร่วมกลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะ ขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างเกือบหนึ่งในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 19.49 ยอมรับว่าตนเองเคยมีพฤติกรรมร่วมกลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 47.32 มีความคิดเห็นว่าในปัจจุบันจำนวนกลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะมีมากกว่าในอดีต ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 31.23 มีความคิดเห็นว่ามีเท่าๆกับในอดีต ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 15.32 มีความคิดเห็นว่ามีน้อยกว่าในอดีต และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 6.13 ไม่แน่ใจ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 34.13 รู้สึกเอือมระอาเป็นอันดับแรกเมื่อได้รับทราบ/ได้ยินข่าวเกี่ยวกับปัญหากลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะ รองลงมารู้สึกเบื่อหน่าย/รำคาญใจและรู้สึกโกรธ/โมโหคิดเป็นร้อยละ 25.45 และร้อยละ 16.51 ตามลำดับ สำหรับสาเหตุสำคัญสูงสุด 5 ประการที่ทำให้เกิดปัญหากลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างได้แก่ ถูกเพื่อนฝูงชักชวนคิดเป็นร้อยละ 83.32 ความคึกคะนองตามวัยคิดเป็นร้อยละ 80.85 ผู้ปกครองไม่ดูแลเอาใจใส่/ขาดความอบอุ่นในครอบครัวคิดเป็นร้อยละ 78.13 ไม่มีกิจกรรมอื่นๆทำคิดเป็นร้อยละ 75.32 และความเหงา/ความเครียดคิดเป็นร้อยละ 72.43 ในด้านความคิดเห็นต่อการแก้ไขปัญหากลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะนั้น กลุ่มตัวอย่างประมาณครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 50.38 มีความคิดเห็นว่าการเพิ่มโทษทางกฎหมายกับกลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะจะช่วยลดปัญหากลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะได้ ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 74.04 มีความคิดเห็นว่าควรมีการเพิ่มโทษกับผู้ปกครองของกลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.13 มีความคิดเห็นว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันควบคุมกลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะให้มากขึ้นกว่าในปัจจุบัน ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 73.45 เห็นด้วยหากจะมีการนำกลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะไปเข้าค่ายทหารเพื่อฝึกอบรมระเบียบวินัยนอกเหนือจากการลงโทษทางกฎหมายตามปกติ และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นด้วยหากจะมีการห้ามกลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะขับขี่ยานพาหนะไปตลอดชีวิตซึ่งคิดเป็นร้อยละ 47.23 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 42.45 ไม่เห็นด้วย สำหรับกลุ่มบุคคลที่มีส่วนสามารถทำให้กลุ่มขี่จักรยานยนต์ซิ่งบนถนนสาธารณะลดพฤติกรรมดังกล่าวได้มากที่สุด 5 อันดับตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างคือ พ่อแม่ผู้ปกครองคิดเป็นร้อยละ 85.28 เพื่อนฝูงคิดเป็นร้อยละ 82.55 เจ้าหน้าที่ตำรวจ/ทหารคิดเป็นร้อยละ 79.49 ครูอาจารย์/หัวหน้างานคิดเป็นร้อยละ 76.51 และผู้ที่เคยมีพฤติกรรมขี่จักรยานยนต์ซิ่งมาก่อนคิดเป็นร้อยละ 72.09

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ