กรุงเทพ--9 ก.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ดร.เรณู โภยสุโข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่ได้มีข่าวการระบาดของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน ในประเทศมาเลเซียนั้น ถึงแม้จะไม่มีผู้เล็ดลอดเข้ามาในประเทศไทย เพราะเรามีมาตรการเข้ม ตามด่านต่าง ๆ ก็ตาม แต่สถานการณโรคในมาลาเซีย ได้เกิดการลุกลาม จากซาราวัค เข้าไปยังกัลลาลัมเปอร์ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข จึงได้เพิ่มมาตรการการกวดขันสถานบริการทุกแห่งโดยเฉพาะในภาคใต้ให้เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคนี้อย่างเข้มงวดพร้อมกับเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปประเทศมาเลเซีย หากไม่จำเป็นไม่ควรพาเด็กเดินทางไปด้วย แต่ถ้าจำเป็นต้องพาไป ให้อยู่ในที่พักอย่าพาไปในที่ชุทนุมปะปนกับเด็กอื่น แต่ก็ไม่ควรตกใจเกินเหตุ เพราะปัญหายังอยู่ที่มาเลเซีย
นายแพทย์สมศักดิ์ วัฒนาศรี ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการติดตามข้อมูลผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 3 ราย พฤษภาคม 10 ราย และมิถุนายน 16 รายรวม 29 ราย และจำนวนผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นถึง 2,140 ราย และลุกลามจากซาราวัคไปกัวลาลัมเปอร์ แสดงว่าทางมาเลเซีย ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดไว้ได้ และเชื้อโรคต้นเหตุ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า Coxackievirus B ตามที่สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ของมาเลเซียตรวจพบ เนื่องจากผลการตรวจจากศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกาพบว่าเป็น Enterovirus 71 ซึ่งเป็นไวรัสลักษณะคล้ายกับ Coxackievirus B อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นไวรัสตัวไหน ก็สามารถแพร่กระจายโดยการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโดยตรงหรือทางอ้อมจากอาหารและน้ำ ที่ปนเปื้อนเชื้อ และวิธีการป้องกันก็จะเหมือนกันคือ ต้องรักษาสุขวิทยาอนามัยส่วนบุคคล หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือจับต้องตุ่มน้ำใส ๆ ตามร่างกายหรือแม้แต่อุจจระของผู้ป่วย ทั้งนี้ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากเข้าห้องน้ำเพื่อป้องกันการติดเชื้อแต่ขอยืนยันว่าในเมืองไทยเรายังไม่มีปัญหานี้ อย่าแตกตื่นจะเกิดความเครียดมากเกินไป และเราจะได้ติดตามเฝ้าระวังในเรื่องนี้ต่อไป--จบ--