ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิ6 เดือนแรกปี2558 จำนวน 17,442 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 22, 2015 09:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับครึ่งแรกปี 2558จ นวน 17,442 ล้านบาท ลดลง552ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1จากช่วงเดียวกันปี 2557โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง1,576ล้านบาท หรือร้อยละ 5.4 รายได้ที่ มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 4,181ล้านบาท หรือร้อยละ 23.3และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1,587ล้านบาท หรือร้อยละ 7.8 ในครึ่งแรกปี2558 ความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำส่งผลกระทบ อย่างต่อเนื่องต่อการฟื้นตัวของภาคส่งออกของไทยขณะที่การบริโภคภาคครัวเรือนและการลงทุนภาคเอกชนฟื้น ตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยภาคธุรกิจยังคงชะลอการลงทุนใหม่ออกไปเพื่อรอสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ ชัดเจนขึ้น แม้จะมีการเร่งตัวของการลงทุนภาครัฐและการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ปัจจัยเหล่านี้ ได้ส่งผลให้สินเชื่อของธนาคารขยายตัวเล็กน้อยจากปี2557 โดยเพิ่มขึ้น 7,383ล้านบาท หรือร้อยละ0.4 เป็น 1,789,616ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ด้านคุณภาพเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 55,126ล้านบาท คิด เป็นอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อร้อยละ 2.5เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.2 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 ซึ่ง เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเน้นการบริหารความเสี่ยงด้านคุณภาพสินเชื่อให้ อยู่ในระดับที่เหมาะสม ด้วยการให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง อีกทั้งธนาคารมี เงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับสูงซึ่งจะช่วยรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้ สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ธนาคารมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 5,901 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็นร้อยละ 170.4 และมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อรวมที่ร้อยละ 5.2 ด้านสภาพคล่องธนาคารยังคงเน้นการบริหารสภาพคล่องให้เพียงพอต่อความต้องการเงินทุนของลูกค้า ณ สิ้น เดือนมิถุนายน 2558 ธนาคารมีเงินฝากจ นวน 2,128,102ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69,323ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4จาก สิ้นปี 2557 ส่งผลให้ธนาคารมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากลดลงจากร้อยละ 86.6 ณ สิ้นปี 2557 เป็นร้อย ละ 84.1 ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2558 ในครึ่งแรกปี 2558 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจ นวน 27,452ล้านบาท และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ ร้อยละ 2.08ลดลงจากร้อยละ 2.37 ในครึ่งหลังปี2557 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร ตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงและส่วนหนึ่งเป็นผลจากต้นทุนและปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้น ของอัตราผลตอบแทนสินเชื่อและปริมาณสินเชื่อ 2/2 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในครึ่งแรกปี 2558 มีจำนวน 22,135ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,181ล้านบาท หรือร้อยละ 23.3จาก ช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเงินลงทุนจำนวน 2,485ล้านบาท และรายได้ ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน1,331ล้านบาท หรือร้อยละ12.7ซึ่งส่วนมากเพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียม จากการรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารทางการเงิน ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจำหน่ายและจัดการกองทุนรวม และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์ ธนาคารมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2558 จ นวน 21,959ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,587ล้านบาท หรือ ร้อยละ 7.8จากช่วงเดียวกันปี 2557โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ธนาคารมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการด เนินงานอยู่ที่ร้อยละ 44.3 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 43.4 ในครึ่งแรกปี 2557 ด้านเงินกองทุน หากนับรวมกำไรสุทธิสำหรับงวด6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 เข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยจะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18.5ร้อยละ 16.4และร้อยละ 16.4 ตามลำดับ ส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีจ นวน 349,823ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.2ของสินทรัพย์รวม และมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 183.27 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 13.80 บาท จากสิ้นปี 2557

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ