LCA เครื่องมือเพื่อสินค้ากรีนโปรดักส์

ข่าวทั่วไป Wednesday July 22, 2015 11:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--2010 ครีเอชั่นแอนด์ คลีน LCA เครื่องมือเพื่อสินค้ากรีนโปรดักส์อุตสาหกรรมไทยต้องตระหนักลดคาร์บอนแข่งตลาดโลก ในปัจจุบันประชากรโลก ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โลกร้อนอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากมนุษย์ได้ใช้วิถีชีวิตที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ สู่ชั้นบรรยากาศเกิดภาวะเรือนกระจก ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติครั้งใหญ่ ล่าสุด บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิกฟิก จำกัด (VNU Exhibitions Asia Pacific) ได้ร่วมสนับสนุน การอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง การประยุกต์ใช้ Life Cycle Assessment) ในการเรียนการสอน และการวิจัย ที่จัดโดย สมาคมเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศไทย เพื่อให้องค์ความรู้ นำขบวนการ การประเมินวัฏจักรชีวิต ( Life cycle assessment ) หรือ LCA มาใช้และมีเครื่องการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม รศ.ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ รองศาสตราจารย์คณะวิศวะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ประธานคลัสเตอร์ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ กรรมการสถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หนึ่งในวิทยากร ได้ให้ข้อมูลน่าสนใจ ว่า จากภาวะวิกฤตเรือนกระจกผนวกกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก อนาคตมนุษย์จะต้องพบภาวะวิกฤตการขาดแคลนน้ำ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปริมาณใช้น้ำเพิ่มขึ้น 2 เท่า ของอัตราการเพิ่มประชาการในศตวรรษที่ผ่านมา และภายในปี 2025 การใช้น้ำในประเทศกำลังพัฒนาจะเพิ่มขึ้น 50 % และประเทศพัฒนาแล้วเพิ่มขึ้น 25 % และประชากรโลก 1.9 พันล้านคน จะอยู่ในประเทศที่มีการขาดแคลนน้ำ และ2ใน3ของประชากรโลกจะอยู่ในภาวะวิกฤตขาดน้ำ จากเหตุการณ์นี้ส่งผลประทบอย่างมาก ต่อการเปลี่ยนแปลงด้านผลผลิตทางการเกษตรในปีพ.ศ. 2623 ครั้งใหญ่ โดยประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงเรื่องน้ำสูง เกินน้ำท่วมปล่อยครั้งขึ้น หากมองย้อนกลับไป9 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยเจอน้ำท่วมถึง 32 ครั้ง และอุทกภัยครั้งใหญ่สุดในปี 2554 สถานการณ์เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ทำให้ทุกประเทศต่างเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของการลดปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่บรรยากาศ เพราะหากแก้ปัญหา ก๊าซคาร์บอนไม่ได้ ประมาณการว่า ปี2100 จะมีความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 700 -1000 ppm จากปี 2005ที่อยู่ที่ 380 ppm ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นถึง 6 องศาเซลเซียล ทั้งนี้จากการทำแบบจำลองขององค์การ IPCC (& Copenhagen Accord, Dec 2009) หากจะรักษาอุณหภูมิโลกไม่สูงเกิน 2 องศาเซลเซียส ในแต่ละประเทศจะต้องลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% ภายในปี 2550 สำหรับประเทศไทยในปี2550 ประเทศไทยปล่อยก๊าซคาร์บอน 277.5 ล้านตันเป็นอันดับ 23 ของโลก ดังนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศ และนั้นคือถึงเวลาการปรับตัวของทุกภาคส่วนของประเทศที่จะต้องดำเนินการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้บรรลุเป้าหมาย ประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศอาเซียน ปล่อยก๊าซเรือนกระจก สูงเป็นอันดับ 2 รองจากอินโดนีเซีย มีค่าGHG emission 22% ส่วนอินโดนีเซีย 37 % ส่วนมาตรการที่ลดปริมาณคาร์บอนที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไทยคือ การควบคุการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่อาจส่งผลต่อการลดขีดความสามารถอุตสาหกรรมไทยคือ 1.สินค้าจะต้องแสดงค่าลดคาร์บอนด์ Carbonfootprint 2) Sectorial approach อุตสาหกรรมที่ปล่อย GHG สูง รศ.ดร.ธำรงรัตน์ กล่าวต่อว่า ทิศทางตลาดโลกอนาคตกำลังเปลี่ยนไป สินค้าและผลิตภัณฑ์จะต้อง เป็น กรีน โปรดักส์ จากการศึกษาของ OECDมูลค่าตลาด Eco-product ของโลก3 แสนล้าน USD ในปี 2000 และ 5.5 แสนล้านUSD ในปี 2010 และ3.8 แสนล้าน USD ในปี 2020 ทั้งนี้จากการศึกษาของ WBCSD ปี 2050 จะมีแต่ Eco-products และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO หรือใบประกาศ และการลดคาร์บอนในการผลิต ตั้งแต่เลือกวัตถุดิบ จนถึงขบวนการใช้งานเมืองถึงมือผู้บริโภค โดยนำขบวนการ การประเมินวัฏจักรชีวิต ( Life cycle assessment ) หรือ LCA มาใช้และมีเครื่องการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ผลวิจัยของศูนย์ธุรกิจ ค้าปลีก EUตลาด Eco-product ใน EU10.3 พันล้านยูโร ในปี 200056 พันล้านยูโร ในปี 2009 และ114 พันล้านยูโร ในปี 2015 จากประชากรโลก 6 พันล้านคน (2000) เพิ่มขึ้นเป็น 7.9 (2025) และ 9.3 (2050) สำหรับอุตสาหกรรมปัจจุบันการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมนั้น จะมีมาตรฐานอุตสาหกรรม ISO 14000 รับรอง แต่ด้วยเหตุกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมโลก กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ สินค้าต้องติดฉลากแสดงถึงการลดปริมาณคาร์บอนตามขบวนการLAC หรือติดฉลาก Carbon ในอนาคต ดังนั้นอุตสาหกรรมไทยจะต้องปรับตัว ปัจจุบันไทยมีการนำร่องใช้แค่ 25 โรงงาน จำนวน 28 ผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่จะมีเพียง ติดฉลากรับรองสินค้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นฉลากยืนยัน จำนวน 1,388 ผลิตภัณฑ์ จาก 389 บริษัท ดังนั้นการทิศทางอุตสาหกรรมไทย จะต้องทำความเข้าในเรื่องการมีฉลาก Carbon Footprint จะต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่อย่างเร่งด่วนเช่นกัน และเป็นที่มาที่รัฐบาลได้ปรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับ ที่11 กับการขับเคลื่อนสู่สังคมสีเขียว โดยเส้นทางสู่อุตสาหกรรมสีเขียวคือ การผลิตสีเขียว การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวในภาครัฐ ความรับผิดชอบสังคมของผู้ผลิต ความร่วมมือกับการบริการ การฟื้นฟูทรัพยากร ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร อาชีพสีเขียน กฎระเบียบการพัฒนาสีเขียว เพิ่มการอุดหนุนอุตสาหกรรมต้นแบบสีเขียว และการออกแบบสีเขียว สำหรับภาคเอกชนที่นำขบวนการประเมินวัฏจักรชีวิต LCA มาใช้ในอุตสาหกรรมที่น่าจับตา มียักษ์ใหญ่ได้ลงมือดำเนินการแล้ว อาทิ SCG ปตท. บางจากปิโตเลียม ทั้งนี้ภาคอุตสาหกรรมที่สนใจฐานข้อมูล การประเมินวัฏจักรชีวิต ( Life cycle assessment ) หรือ LCA มาใช้และมีเครื่องการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีห้องปฏิบัติการประเมินวัฏจักรชีวิต LCA Lab วิจัยพัฒนาตลอดจนประยุกต์ใช้องค์ความรู้ และด้านเครื่องมือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม ให้กับอุตสาหกรรมและภาคีที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแหล่งกระจายความรู้สู่กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายต่อไป สนใจข้อมูลดีๆหลากหลาย เทคโนโลยี งานวิจัยห้องแล็บ พบกัน ที่งาน Thailand LAB 2015 และ LIFE Sciences Asia 2015 ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในวันที่ 9-11กันยายน 2558 ที่ EH 105 และ EH 107 ณ ไบเทค บางนา โดยบริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิกฟิก จำกัด (VNU Exhibitions Asia Pacific) ได้ร่วมมือกับ สมาคมต่างๆ ทั้งในประเทศและในภูมิภาค จัดงานประชุมเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านงานวิจัย งานวิเคราะห์และตรวจสอบ ตลอดจนด้านนวัตกรรมเครื่องมือแล็บ สามารถลงทะเบียนเข้าชมงาน ได้ที่ www.thailandlab.com หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :VNU Exhibitions Asia Pacific Co., Ltd. Tel: +662-670-0900 Ext. 201-209 Fax: +662-670-0908 Email:thailandlab@vnuexhibitionsap.com Website: www.thailandlab.com Facebook Page:www.facebook.com/ThailandLab Twitter: twitter.com/ThailandLAB YoutubeChannel:www.youtube.com/ThailandLab Thailand LAB 2015 Trade : 9-11 September 2015 (10.00-17.00 hrs.) Venue : EH 105 - EH 107 , BITEC, Bangkok, Thailand

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ