กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,077.90-1,091.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 200 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,200 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 18,070 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 210 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,280 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.03 น.ของวันที่ 24/07/15)
แนวโน้มวันที่ 27 กรกฎาคม 2558
การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีนจะส่งผลลบต่ออุปสงค์ในสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงทองคำซึ่งจีนเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับต้นๆของโลก เมื่อภาคการผลิตของจีนหดตัวลงมากที่สุดในรอบ 15 เดือนในเดือนกรกฎาคม เป็นข้อมูลที่สะท้อนถึงยอดสั่งซื้อที่หดตัวลงจนกระทบการผลิต โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นต้นสำหรับภาคการผลิตของจีนดิ่งลงที่ระดับจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2014 และ ถือเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันที่ภาคการผลิตจีนหดตัวลง ทั้งนี้ ดัชนี PMI สวนทางกับตัวเลขเศรษฐกิจในระยะที่ผ่านมาของจีนบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่เสถียรภาพหลังจากรัฐบาลจีนรายงานว่าเศรษฐกิจจีนเติบโต 7.0% ต่อปี ประกอบกับทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม เมื่อความผันผวนของตลาดหุ้นจีนกลับมาอีกครั้ง หลังจากดัชนีตลาดหุ้นจีนหุ้นจีนเริ่มร่วงลงหลังจากพุ่งขึ้น 6 วันติดต่อกันเมื่อนักลงทุนบางส่วนเทขายออกมาจากความวิตกว่าราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมากเกินไปเมื่อเทียบกับแนวโน้มเศรษฐกิจปัจจุบัน ทั้งนี้ ราคาทองคำตลาดโลกดิ่งลงใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 โดยการดิ่งลงของราคาวันศุกร์นี้ เป็นการอ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 5 ปี การคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะร่วงลงอีก ทำให้นักลงทุนชะลอการเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม ประกอบกับความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 255,000 ราย ซึ่งเป็นข้อมูลต่ำสุดในรอบกว่า 41 ปีครึ่ง หนุนทิศทางสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและมีโอกาสปรับตัวขึ้นค่าขึ้นต่อไปได้อีก นักลงทุนเลือกที่จะถือเงินสดเพื่อรอดูสถานการณ์ ทำให้เชื่อได้ว่าหากไม่มีปัจจัยหนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่ง การขยับขึ้นของราคาทองคำคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า ซึ่งการปรับตัวขึ้นได้มากเพียงใดหรือนานเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมของเศรษฐกิจ ซึ่งนักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำมีลักษณะการดีดตัวของราคาทองคำในลักษณะ Technical Rebound หลังจากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลง โดยประเมินโซนแนวต้านที่ 1,090-1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับ 1,070 ดอลลาร์ต่อออนซ์ น่าจะเห็นการปรับตัวลงต่อโดนประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,060 หรือ 1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่าทองคำมีความผันผวนอย่างมาก และนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหากหลุดบริเวณดังกล่าวจำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,090 หรือ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,070 (17,890บาท) 1,060 (17,730บาท) 1,050 (17,400บาท)
แนวต้าน 1,090 (18,310บาท) 1,100 (18,470บาท) 1,108 (18,640บาท)
GOLD FUTURES (GFQ15)
แนวรับ 1,070 (17,890บาท) 1,060 (17,730บาท) 1,050 (17,400บาท)
แนวต้าน 1,090 (18,310บาท) 1,100 (18,470บาท) 1,108 (18,640บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148