บมจ. คอมเซเว่น เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 10 ส.ค. นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 7, 2015 13:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บมจ. คอมเซเว่น (COM7) ผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีในนาม “Banana IT” ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสินค้า ไอทีที่มีสาขามากที่สุดในประเทศ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 10 ส.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,020 ล้านบาท ดร.สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. คอมเซเว่น (COM7) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ ในวันที่ 10 สิงหาคม 2558 โดย COM7 ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ร้าน Banana IT, Banana Mobile และจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ภายใต้ร้าน iStudio, iBeat, U Store By Comseven รวมทั้งศูนย์บริการ iCare โดย COM7 เป็นผู้จำหน่ายสินค้าไอทีที่มีสาขามากที่สุดในประเทศถึง 317 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด กว่า 55 จังหวัด COM7 มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 900 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 300 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม และ 3-4 สิงหาคม 2558 ในราคาหุ้นละ 3.35 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,005 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,020 ล้านบาท โดยมีบริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปขยายสาขาร้านค้าปลีก ชำระคืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านเงินทุน รองรับการเติบโตด้วยการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากขึ้น โดย COM7 มีเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีของประเทศ หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ COM7 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มนายสุระ คณิตทวีกุล ถือหุ้น 59.63% นายบัญชา พันธุมโกมล ถือหุ้น23.45% และนางสาวอารี ปรีชานุกูล ถือหุ้น 7.84% ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 17.82 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (1 เมษายน 2557 ถึง 31 มีนาคม 2558) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.188 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และเงินสำรองต่างๆ ตามกฎหมายจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.comseven.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ