EXIM BANK แถลงผลการดำเนินงานเดือนมกราคม-มิถุนายน 2558

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 10, 2015 10:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--EXIM BANK ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2558 ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) มีกำไรสุทธิ 779 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 70,111 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (NPLs Ratio) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 อยู่ที่ร้อยละ 6.98 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,894 ล้านบาท รวมทั้งมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 5,212 ล้านบาท โดยเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 3,024 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองพึงกันร้อยละ 172.36 นายสุธนัย ประเสริฐสรรพ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ธุรกิจของ EXIM BANK ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักคือ สินเชื่อและรับประกัน ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2558 การสนับสนุนสินเชื่อของ EXIM BANK แก่ผู้ประกอบการไทยทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 69,410 ล้านบาท และเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 70,111 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อใหม่ที่เบิกจ่ายเพิ่มขึ้นในระหว่างปีจำนวน 12,266 ล้านบาท ส่วนการรับประกันทำให้เกิดปริมาณธุรกิจส่งออกและลงทุนรวม 35,615 ล้านบาท โดย 4,379 ล้านบาทเป็นธุรกิจส่งออกของ SMEs หรือร้อยละ 12.30 ของธุรกิจรับประกันรวม ทั้งนี้ มียอดรับประกันคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 จำนวน 30,530 ล้านบาท การสนับสนุนผู้ส่งออก SMEs เป็นนโยบายหนึ่งที่สำคัญของ EXIM BANK โดยธนาคารได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีลูกค้า SMEs เพิ่มมากขึ้น โดยจำนวนลูกค้า SMEs คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 80 ของลูกค้าทั้งหมด และมีการอนุมัติวงเงินเพิ่มใหม่ในปีเท่ากับ 14,221 ล้านบาท วงเงินอนุมัติสะสมที่ลูกค้าสามารถเบิกใช้สินเชื่อได้เท่ากับ 59,933 ล้านบาท และเงินให้สินเชื่อคงค้างให้แก่ผู้ส่งออก SMEs มีจำนวน 20,815 ล้านบาท ด้านการสนับสนุนตามยุทธศาสตร์ของประเทศและนโยบายรัฐ เช่น สนับสนุนโครงการพัฒนาพลังงานทดแทน สนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมของประเทศ และอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง และสนับสนุนผู้ประกอบการพาณิชยนาวีและโลจิสติกส์อื่นๆ EXIM BANK มีการอนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อพัฒนาประเทศเพิ่มใหม่ในปีจำนวน 3,585 ล้านบาท และวงเงินอนุมัติสะสมจำนวน 20,403 ล้านบาท เป็นเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 เท่ากับ 12,417 ล้านบาท ด้านการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ EXIM BANK ที่จะเป็นธนาคารที่สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่เวทีโลก โดยเฉพาะประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสะสมของสินเชื่อเพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศในกลุ่มประเทศ AEC รวม 83,391 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินอนุมัติเพิ่มใหม่ในปีเท่ากับ 11,897 ล้านบาท ขณะที่เงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 เท่ากับ 38,429 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน EXIM BANK ยังได้ให้การสนับสนุนด้านการป้องกันความเสี่ยงเพื่อผลักดันให้การค้าการลงทุนระหว่างประเทศกับ AEC ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีวงเงินป้องกันความเสี่ยงให้กับผู้ประกอบการอยู่ที่ 24,809 ล้านบาท รักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังของปี 2558 EXIM BANK ยังคงมีเป้าหมายสนับสนุนผู้ส่งออก ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก และนักลงทุน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยที่จะเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจส่งออกอย่างเต็มที่ โดย EXIM BANK มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ดังนี้ สินเชื่อ SMEs เริ่มต้นธุรกิจ เพื่อสนับสนุนผู้ส่งออก SMEs ที่เพิ่งเริ่มกิจการและมีคำสั่งซื้อแล้ว แต่ยังขาดเงินทุนหมุนเวียน ให้มีเงินทุนเพียงพอสำหรับเตรียมสินค้า ทั้งช่วงก่อนและหลังส่งออก และสินเชื่อ SMEs เพื่อการวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนให้ SMEs ไทยทำการวิจัยเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการและสร้างนวัตกรรมของตนเอง เพื่อต่อยอดธุรกิจและเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทย โดยเฉพาะ SMEs ที่มีโครงการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ EXIM BANK ยังคงมีบริการสินเชื่อ SMEs ในด้านอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการได้อย่างครบวงจร อาทิ สินเชื่อ SMEs ส่งออกสบายใจ สินเชื่อ SMEs ค้าชายแดน สินเชื่อ SMEs ขยายฐาน สินเชื่อเพื่อการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ สินเชื่อเพิ่มพลังผู้ซื้อผู้ขาย ที่ EXIM BANK ได้ให้บริการกับผู้ประกอบการแล้วตั้งแต่ต้นปี 2558

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ