กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๑๐ ส.ค. ๕๘) เวลา ๑๐.๓๐ น. พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการมหกรรมวิถีชีวิตชาติพันธุ์แห่งประเทศไทย ประจำปี ๒๕๕๘ "ชาติพันธุ์ บนพื้นที่สูง ร่วมมือพัฒนาสิ่งแวดล้อม" เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง "วันสากลชนเผ่าพื้นเมืองโลก" ทุกวันที่ ๙ สิงหาคมของทุกปี โดยมีแกนนำกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าเข้าร่วมงาน จำนวนกว่า ๑๘๐ คน ได้แก่ ม้ง ถิ่น อาข่า มลาบรี กะเหรี่ยง มูเซอ เย้า ไทลื้อ ลีซอ ลัวะ ขมุ และไทใหญ่ จาก ๑๖ จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร กาญจนบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ พิษณุโลก ลำปาง ตาก ลำพูน เพชรบุรี เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา ราชบุรี และอุทัยธานี ณ ห้องประชุมชั้น ๒ อาคารใหม่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สะพานขาว กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ในปี พ.ศ.๒๕๕๘ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.) ได้รื้อฟื้นบทบาทภารกิจ การดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิต กลุ่มราษฎรบนพื้นที่สูง ซึ่งรวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในพื้นที่ ๑๖ จังหวัด โดยได้จัดตั้งกองกิจการนิคมสร้างตนเองและพัฒนาชาวเขาให้มีบทบาทในการ ส่งเสริม สนับสนุน และสร้างความเข้มแข็งทางสังคม การจัดองค์ความรู้ ความเข้าใจเพื่อเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความสมานฉันท์ และความเข้าใจซึ่งกันและกันของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าต่างๆ รวมทั้งสร้างความเสมอภาคและความยุติธรรมในสังคมไทย เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย มีพื้นที่แสดงออกซึ่งอัตลักษณ์วิถีชีวิต ภูมิปัญญาของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่า การสนับสนุนงบประมาณ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ดำเนินกิจกรรม "ชาติพันธุ์ บนพื้นที่สูง ร่วมมือพัฒนาสิ่งแวดล้อม" เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในกลุ่มชาติพันธุ์และราษฎรบนพื้นที่สูง ในเรื่องการเข้าถึงสวัสดิการทางสังคม และการให้บริการของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และเป็นการพัฒนาศักยภาพชนเผ่า
"การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่กลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง ได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา นอกจากนี้ ยังได้แสดงศักยภาพด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณี พร้อมทั้งสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ ทุกคนจะเกิดความภาคภูมิใจและมุ่งดำรงรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงเกิดความรักความสามัคคีภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการ และยังได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ร่วมกัน รวมทั้งสร้างความร่วมมือในการพัฒนากลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาต่อไป" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย