กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษาร่วมแถลงผลสำรวจความรู้สึกและความคิดเห็นของลูก ๆเนื่องในวันแม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อลูก ๆ เนื่องในวันแม่แห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2558 โดยได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5 -10 สิงหาคม พ.ศ. 2558 กลุ่มสำรวจอายุระหว่าง 19-22 ปี
ศ.ศรีศักดิ์ สรุปผลโพลล์ ดังนี้กิจกรรมที่ตั้งใจจะทำกับคุณแม่ในวันแม่แห่งชาติปี พ.ศ. 2558 นี้นั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เกือบหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 31.77 ตั้งใจจะมอบดอกมะลิ/ของขวัญให้แม่ในวันแม่แห่งชาติปี พ.ศ. 2558 นี้ รองลงมาตั้งใจจะไปรับประทานอาหารนอกบ้านกับคุณแม่และครอบครัวคิดเป็นร้อยละ 22.89 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 14.43 และร้อยละ 11.53 ตั้งใจจะไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆกับแม่/ครอบครัวและพักผ่อนทำกิจกรรมเลี้ยงฉลองอยู่ที่บ้านตามลำดับ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 6.92 ตั้งใจจะไปเดินห้างสรรพสินค้า/ชมภาพยนตร์กับแม่/ครอบครัว และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 4.61 ตั้งใจจะไปไหว้พระทำบุญกับแม่และครอบครัว ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 2.73 จะทำสิ่งอื่นๆ โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 5.12 ยังไม่แน่ใจ ขณะเดียวกันหากในวันแม่แห่งชาติไม่ได้มีโอกาสอยู่ในสถานที่เดียวกับแม่ กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 51.24 จะเลือกติดต่อกับแม่ด้วยวิธีการพูดคุย ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 27.84 เลือกติดต่อทั้งการพูดคุยและการส่งข้อความด้วยตัวอักษร ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 14.77 เลือกติดต่อด้วยวิธีการส่งข้อความเป็นตัวอักษร โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 6.15 ยังไม่แน่ใจ/คิดว่าไม่ติดต่อ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 67.89 ระบุว่าตนเองเคยบอกรัก/ซื้อของขวัญให้แม่นอกเหนือจากในวันแม่แห่งชาติ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 32.11 ไม่เคย
ในด้านความคิดเห็นต่อระบบการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์และหน้าที่การเรียน/การงานในปัจจุบันกับความใกล้ชิดกับคุณแม่นั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 55.85 มีความคิดเห็นว่าระบบการสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์มีส่วนช่วยให้ตนเองได้ติดต่อพูดคุยกับแม่ได้สะดวกมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างถึงเกือบสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 63.79 มีความคิดเห็นว่าระบบการสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์มีส่วนทำให้ตนเองมีโอกาสพบปะกับแม่ได้น้อยลง และกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 57.05 มีความคิดเห็นว่าด้วยหน้าที่การงาน/การเรียนในปัจจุบันส่งผลให้ตนเองมีโอกาสได้รับประทานข้าวร่วมกับแม่ในแต่ละสัปดาห์น้อยลงกว่าในอดีต