กรุงเทพ--20 ม.ค.--บริษัท เมอร์ค ชาร์พ แอนด์ โดห์ม จำกัด
ปี 2541 นับเป็นฝันร้ายของวงการยาที่ยอดจำหน่ายยาตกต่ำและซบเซาอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คนไทยจะทนต่อภาวะเจ็บป่วยได้มากขึ้น ระวังต่อการเจ็บป่วย และพยายามดูแลรักษาตนเอง แทนการเข้ารักษาในโรงพยาบาลหรือคลินิก แต่คงไม่ใช่สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด เพราะปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นถึง 2.5 ล้านคน โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ และเขตเมืองใหญ่ๆ พบอาการของโรคหืดหอบและระบบทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้นและมีอาการรุนแรงมากขึ้น
สาเหตุของโรคล้วนมาจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยเฉพาะ ไรฝุ่น และแมลงสาบ นอกจากนี้ สภาวะอากาศ ฝุ่นละออง ท่อไอเสีย รถยนต์ ก็ล้วนเป็นสาเหตุก่อให้เกิดอาการของโรคหอบหืดได้ ในผู้ป่วยที่มีความไวต่อสิ่งเหล่านี้ ภูมิคุ้มกันโรคของคนไทยเริ่มลดน้อยลง การป้องกันสาเหตุเหล่านี้ ดูง่ายมากเพียงแค่หลีกเลี่ยงการสัมผัส และระวังเรื่องความสะอาดภายในบ้าน
คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกป่วยด้วยโรคหอบหืด รวมทั้งผู้ใหญ่ที่มีโรคหอบหืดประจำ จะคุ้นเคยกับการรักษาด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะโดยการพ่นยาขยายหลอดลม การทานยาแก้แพ้ การสูดดมหรือทานยากลุ่มสเตียรอยด์ (Steroid) เพื่อลดการอักเสบและบวมของหลอดลม ยาละลายเสมหะ การให้น้ำแก่ผู้ป่วย ทั้งโดยการให้ดื่มน้ำอุ่นมากๆ การให้น้ำเกลือช่วย รวมถึงการสูบพ่นไอน้ำเข้าทางลมหายใจ เพื่อลดความเข้มข้นและเหนียวของเมือกที่ออกมาจากอาการแพ้ และการบริหารให้ผู้ป่วยฝึกหายใจ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ชนิดพ่นหรือทาน กับเด็กที่ป่วยด้วยโรคหืดหอบ อาจมีผลให้ร่างกายเด็กเล็กกว่าปกติ
อาการของผู้ป่วยโรคหอบหืด มักสร้างความทรมานใจให้แก่ผู้ใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นเด็ก คุณพ่อคุณแม่แทบไม่เป็นอันกินอันนอน อาการของโรคนี้คือหายใจขัด หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เหนื่อยหอบจากการสูดอากาศเข้าออกแต่ละครั้ง สร้างความทรมานให้แก่ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก
ผู้ป่วยด้วยโรคหอบหืด ควรเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ และโรคในระบบทางเดินหายใจทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งการรักษาคุณหมอจะพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป แล้วแต่ความรุนแรงของโรค รวมถึงการตอบสนองต่อยาของคนไข้เด็ก และผู้ใหญ่ที่แตกต่างกันไป คนไข้หอบหืดมักได้รับยาเป็นระยะเวลายาวนาน บางครั้งจะมีอาการดื้อยาเกิดขึ้นได้ จึงต้องดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด มิใช่จะใช้ยาตัวเดิมได้ตลอดไป
การเปิดตัวของยา Montelukast Sodium, ของ MSD ในการสัมมนาวิชาการว่าด้วยโรคหอบหืดและการรักษาด้วยยาในกลุ่ม Leukotriene Receptor Antagonist ที่จัดขึ้นโดยบริษัท เมอร์ค ชาร์พ แอนด์ โดห์ม (MSD) ร่วมกับสมาคมโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับเกียรติจาก นายแพทย์ David Skoner หัวหน้าหน่วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเด็ก ณ พิสเบอร์ก สหรัฐอเมริกา และนายแพทย์ John Oppenheimer ผู้เชี่ยวชาญโรคปอดและภูมิแพ้ จากมหาวิทยาลัยนิวเจอร์ซี่ สหรัฐอเมริกา การสัมมนาดำเนินรายการโดย ศ. นพ. สุชัย เจริญรัตนกุล หน่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล (ผู้ก่อตั้งและเลขานุการมูลนิธิโรคหืดแห่งประเทศไทย) และนายแพทย์เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการจัดประชุมกลุ่มย่อยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยแพทย์รวมทั้ง รศ. นพ. ปกิต วิชยานนท์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะ-แพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการรักษาโรคหอบหืดได้อย่างมีประสิทธิ-ภาพ "การนำเสนอผลการศึกษาวิจัยของยาตัวใหม่นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งที่จะเอาชนะโรคที่ทรมานและเป็นปัญหาใหญ่ของประชากรโลก และประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย รวมทั้งประเทศไทยที่มีสภาวะอากาศ และสิ่งแวดล้อมที่เลวลงทุกวัน" นายแพทย์สุชัย กล่าว
"เด็กที่ป่วยด้วยโรคหอบหืดมีสถิติเพิ่มมากขึ้นมากจนน่าตกใจ การรักษาด้วยยา Singulair( ชนิดเคี้ยวทานเพียงวันละครั้งเดียว ไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ (Steroid) เป็นยาลดการอักเสบของหลอดลมซึ่งเป็นสาเหตุของอาการหอบหืด เป็นยาที่น่าสนใจเพราะไม่มีผลต่อการกดการเจริญเติบโตของเด็ก เหมือนยาสเตียรอยด์ที่ใช้อยู่ ผลการศึกษาทดลองใช้ในต่างประเทศและผู้ป่วยไทยที่ได้รับยานี้ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก" นายแพทย์ปกิต กล่าวเสริม "คนอเมริกันกว่า 50 ล้านคน ป่วยด้วยโรคหอบหืดและภูมิแพ้ ในจำนวนนี้มีเด็กถึง 5 ล้านคน ที่ป่วยด้วยโรคหอบหืด หรือราวร้อยละ 7 ของเด็กอเมริกันทั่วประเทศประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะมีผู้ป่วยเด็กด้วยโรคหอบหืดถึงประมาณ 2 ล้านคน หรือราวร้อยละ 10 ของเด็กทั่วประเทศ ที่น่าสนใจอีกสิ่งหนึ่งคือ ค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยด้วยโรคหอบหืดในอเมริกา สูงถึงกว่า 6 พันล้านเหรียญต่อปี
ก็ลองคิดดูว่าคนไทยต้องเสียค่าใช้จ่ายจากการรักษาโรคหอบหืดเท่าไหร่ ฉะนั้นมาช่วยกันรณรงค์ดูแลสภาวะอากาศและสิ่งแวดล้อมกันด้วย" นพ. ปกิต กล่าวย้ำ ถึงความรุนแรงของโรค และสาเหตุที่ล้วนมาจากสภาวะแวดล้อมที่เลวร้ายเพิ่มขึ้นทุกวัน
การหลีกเลี่ยงสาเหตุของการแพ้ จนทำให้เกิดอาการหอบหืด ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ยาที่ใช้รักษาแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ
1. กลุ่มยาขยายหลอดลม (พ่นและทาน)
2. กลุ่มยาป้องกัน ซึ่งมี 2 ชนิด
2.1 กลุ่มที่ไม่ใช้สเตียรอยด์ ได้แก่ Montelukast Sodium ที่เพิ่งเปิดตัวไปโดย เมอร์ค ชาร์พ แอนด์ โดห์ม
2.2 กลุ่มที่ใช้สเตียรอยด์ (พ่นและทาน)
ผู้ป่วยโรคหอบหืดควรได้รับการรักษาและควรปฏิบัติตน ดังนี้
1. ได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดถี่ถ้วน
2. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
3. ใช้ยาให้เหมาะสมกับระดับความรุนแรงของโรค ตามคำแนะนำของแพทย์
4. รู้จักรักษาตัวเองในยามคับขัน โดยมีแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ซึ่งได้รับคำแนะนำจากแพทย์
5. มารับการตรวจอย่างสม่ำเสมอ
บริษัท เมอร์ค ชาร์พ แอนด์ โดห์ม จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ทางเวชภัณฑ์ ได้คิดค้นตัวยาใหม่ montelukast sodium, MSD สำหรับการรักษาโรคหอบหืดในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญได้แก่
* เป็นยาหอบหืดที่ลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ทำให้ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก
* เป็นยาที่ใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะรูปแบบยาสำหรับเด็กเป็นยาทานชนิดเคี้ยว รสเชอรี่ ที่เด็กสามารถรับประทานได้ง่าย รับประทานเพียงวันละครั้งก่อนนอน จึงสะดวกกว่ายาพ่นที่เคยใช้ กันอยู่
* เป็นยาที่รับรองผลโดย FDA จากสหรัฐอเมริกา และ FDA ประเทศไทย และใช้เป็นที่แพร่หลาย และเป็นที่ยอมรับของแพทย์ทั่วโลก ยามีผลข้างเคียงน้อย ใช้ได้อย่างปลอดภัย
นอกจากความมุ่งมั่นในการวิจัยเพื่อคิดค้นตัวยาใหม่ๆ แล้ว เมอร์ค ชาร์พ แอนด์ โดห์ม ยังให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ พัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ โดยได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการก่อตั้ง สมาคมโรคภูมิแพ้ในเด็ก โรคระบบทางเดินหายใจและภูมิคุ้มกัน แห่งเอเซีย-แปซิฟิก (APAPARI) เมื่อปี 2541 ที่ผ่านมา ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นแพทย์จาก 10 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทย และในปีนี้ คาดว่าประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกด้วย การก่อตั้งสมาคมฯ นี้มีจุดประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้ และงานวิจัยทางการแพทย์ ของแพทย์จากประเทศต่างๆ อันจะนำไปสู่การพัฒนาวิธีการรักษาโรคภูมิแพ้ในเด็ก และโรคระบบทางเดินหายใจ ทั้งโรคหอบหืด และปัญหาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นทั้งในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก และทั่วโลก
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเพ็ญศรี ทรรศนะวิเทศ หรือ ศิริพร ตรีพรไพรัชบริษัท เพรสโก้ แชนด์วิค (ประเทศไทย) จำกัดโทรศัพท์ 273-8800 โทรสาร 273-8881--จบ--