ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น” เท่าเดิมที่ “BBB+/Stable”

ข่าวทั่วไป Tuesday June 28, 2005 09:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” พร้อมยืนยันแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ การขยายตัวของโครงการก่อสร้างภาครัฐ รวมถึงการดำเนินนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวัง และประสบการณ์ที่ยาวนานของบริษัทในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง นอกจากนี้ การจัดอันดับเครดิตดังกล่าวยังพิจารณาถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่ปรับตัวลดลงจากผลของราคาวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น และการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่
ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ ทั้งนี้ การมีผลงานในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ให้แก่ภาครัฐและปริมาณงานที่มีอยู่ในมือที่มากพอคาดว่าจะทำให้บริษัทดำเนินนโยบายในการประมูลงานที่ระมัดระวังมากขึ้น นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังและควบคุมภาระเงินกู้ให้อยู่ในระดับปัจจุบัน
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ปัจจุบันบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นหนึ่งในสามของผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดของประเทศด้วยรายได้ในปี 2547 กว่า 8,322 ล้านบาท โดยมากกว่า 60% ของรายได้ดังกล่าวมาจากโครงการก่อสร้างภาครัฐ โครงการในมือที่ยังไม่แล้วเสร็จของบริษัท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 มีมูลค่า 27,850 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ารายได้ในปี 2547 ถึง 3 เท่า จากผลงานที่เป็นที่น่าเชื่อถือในอดีตที่ผ่านมา ประกอบกับความสัมพันธ์ที่ดีที่มีกับภาครัฐ และฐานะการเงินที่ดี ทำให้บริษัทน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ที่มีโอกาสชนะการประมูลโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
ถึงแม้ว่าโครงสร้างทางเงินของบริษัทยังอยู่ในระดับที่ดี แต่ความสามารถในการทำกำไรในปีที่ผ่านมากลับปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 4.23% ในปี 2547 จาก 13.54% ใน ปี 2546 เนื่องจากผลของการปรับเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในบางโครงการที่มากกว่าที่ได้ประมาณการไว้ ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสแรกของปี 2548 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.7% และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ 28.8% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 ทริสเรทติ้งกล่าว--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ